วันศุกร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2559

อาการคันเหมือนมดเดิน

อาการคันเหมือนมดเดิน
อาการคันเหมือนมดเดินใต้ผิวหนัง เคยเป็นกันไหมครับ
   เกิดขึ้นขณะที่ลมในกายของเรามีการเคลื่อนที่ ไหลวนอยู่ในกายของเรา ลมยังขัดอยู่ ยังไม่สามารถวิ่งผ่านออกไปนอกร่างกายได้ จึงทำให้เรามีอาการคันใต้ผิวหนังเหมือนมดไต่  ส่วนมากจะเป็นบริเวณปลายมือ-ปลายเท้า
   บางครั้งจะมีอาการปวดแสบปวดร้อน บริเวณใต้ผิวหนัง กรณีนี้ส่วนมากเกิดจากการที่กล้ามเนื้อเราไปโดนกระแทก โดนฟาด จากวัสดุภายนอก ในภายหลังเมื่ออาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อหายไปแล้ว อาการที่เกิดจากลมที่ยังไม่ได้รักษาก็จะเกิดขึ้นมาอาการปวดแสบปวดร้อนก็จะเกิดขึ้น
  มีกรณีของคนไข้คนหนึ่ง อยู่แถวพุทธมณฑล สาย3 รักษาอาการบาดเจ็บโดยไม่ได้บำบัดไปถึงการขัดของลมในกาย หลังจากคนไข้ได้นวดแก้อาการขัดของลมมาซักระยะเวลาหนึ่ง ประมาณ 6เดือน อาการโดยรวมของคนไข้ยังปกติ ยังไม่อยู่ในสภาวะที่จะต้องนวดซ้ำ
 ปรากฎว่าในวันรุ่งขึ้น คนไข้ตื่นมาในอาการเหมือน3ปีที่แล้ว มีอาการปวด บริเวณหน้าผาก
คนไข้ซึ่งเคยได้รับอุบัติเหตุจากการที่พระบูชาที่หล่อจากเรซิ่นหล่นจากบริเวณหลังตู้ ตกลงมาใส่หน้าผากข้างซ้าย จนทำให้หน้าผากซ้ายเจาะ เลือดกระฉูด มีอาการปวด บวมโนขึ้นมา คนไข้จึงทำการรักษาทางแพทย์แผนปัจจุบัน จนอาการบวมโน ยุบลงมาจนหายเป็นปกติ แต่สิ่งหนึ่งที่ร่างกายมี หลงเหลือจากการรักษาตัวในครั้งนั้นก็คือ อาการคันเหมือนมดเดินใต้ผิวหนัง ซึ่งอาการที่หลงเหลือนี้ มีอยู่ต่อเนื่องตลอดเป็นเวลา3ปีนับตั้งแต่หายจากอาการบวมโนของหน้าผาก
   วันนั้นทั้งวัน มีอาการปวดตลอดทั้งวัน ซึ่งผมก็แนะนำคนไข้ว่าถ้าไม่ไหว พรุ่งนี้จะนวดก็นวดนะครับ

    กลายเป็นว่า คนไข้บอกว่า วันรุ่งขึ้นตื่นขึ้นมา อาการปวดหายไป ที่สำคัญกว่านั้น อาการคันเหมือนมดเดินใต้ผิวหนัง ซึ่งเหลืออยู่จากอาการบาดเจ็บ ที่เป็นมาตลอดเวลาทั้ง3ปี ก็หายไปตั้งแต่วันนั้น

วันพฤหัสบดีที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2559

ข้อเท้าแพลง
อาการข้อเท้าพลิก อาการเท้าแพลง เคยเป็นกันไหมครับ
   เกิดขึ้นขณะที่เราเดินจนข้อเท้าพลิก หรือโดนวัตถุภายนอกกระแทกใส่ข้อตาตุ่มด้านนอก หรือข้อตาตุ่มด้านใน ซึ่งส่วนมากจะมีอาการอยู่ที่ข้อตาตุ่มด้านนอก หลังจากมีการข้อเท้าพลิกแล้ว บริเวณข้อตาตุ่มต้านนอกจะมีอาการบวม เราจะเดินลงน้ำหนักที่เท้าแทบไม่ได้ จะมีอาการปวดแปลบขึ้นมา  ปกติแล้วการบำบัดเบื้องต้นคือ เอาความเย็นเข้าประคบบริเวณที่บวม ให้อาการบวมลดลง แล้วถึงจะรักษาอาการโดยการนวด หรือวิธีใดๆก็ตาม ก็จะทำให้เราสามารถกลับมาเดินได้อีกเป็นปกติ
   เคยสังเกตไหมว่า ถ้าเราเคยเท้าแพลง และอาการนั้นหายไปนานแล้วจะ5ปี 10ปี 20ปีก็ตาม แต่ทำไมบางครั้งเมื่อเราเดิน เราจะมีอาการปวดแปลบๆ ปวดลึกๆข้างในข้อตาตุ่มด้านนอก หรือบริเวณเดิมที่เราเคยบาดเจ็บอยู่  
    หลังจากนั้น เราก็จะมีอาการเรื้อรัง ค่อยๆตึงที่หน้าแข้งในแนวตาตุ่ม  แล้วค่อยๆมีอาการตึงบริเวณข้างขาด้านนอกของขาท่อนบน และตึงขึ้นสีข้าง ข้างๆลำตัว และมีอาการลมแน่นท้อง เป็นก้อนอยู่ในท้อง
     ซึ่งถ้าอาการของเราตึงไปถึงด้านบน บริเวณสีข้าง จะทำให้เรานั่งพับเพียบไม่ได้นาน
     อาการที่เราเดิน เดินแล้วข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลงนั้น ว่าไปแล้วก็เป็นอาการที่เกิดจากการขัดของลม ลมเดินไม่สะดวก เมื่อร่างกายได้รับการรักษาอาการบาดเจ็บ อาการบวมของกล้ามเนื้อ แต่การขัดของลมไม่ได้รับการบำบัด จึงทำให้เกิดผลระยะยาว โดยแสดงให้เห็นจากการที่มีอาการแปลบๆ ลึกๆเข้าไปในตาตุ่ม ผิวหนังบริเวณตาตุ่มเราก็จะมีลักษณะบวม อ้วน

   คุณ มีอาการอย่างนี้ไหม

วันเสาร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2559

ลมขัด

ลมขัด
   อาการที่เกิดจากการขัดของลม หรืออาการที่เกิดจากเลือดลมเดินไม่สะดวก ร่างกายของคนเรา ระบบไหลเวียนเลือดไม่ได้มีเฉพาะเลือดอย่างเดียว มีการไหลเวียนของลมที่มีอยู่ในกายของเราด้วย การไหลเวียนของเลือดการรักษาแผนปัจจุบันโดยใช้เครื่องมือทางการแพทย์สามารถตรวจและรักษาให้หายได้ ส่วนการไหลเวียนของลมนั้น ส่วนมากยังรักษาได้ไม่ตรงกับอาการ ทำให้ห้วงเวลาการรักษานั้นเป็นการรักษาเฉพาะส่วนของการไหลเวียนของเลือด ส่วนการไหลเวียนของลมนั้นก็ยังมีการเก็บอาการขัดของลมนั้นไว้ในร่างกาย เมื่อใดที่เราทำให้ลมในกายไหลเวียนได้เป็นปกติ ลมเข้าและออกตามผิวหนัง ตามข้อต่างๆของร่างกาย อาการป่วยที่เกิดจากการขัดของลมก็จะหายไปเอง
   ปกติแล้ว ร่างกายคนเราลมไม่ได้เข้าและออกจากร่างกายแค่ที่จมูกหรือปากเท่านั้น แต่ลมสามารถเข้าและออกจากกายเราได้ทุกอณูของร่างกาย ในสภาวะที่ร่างกายเรามีการไหลเวียนของลมที่ดี ลมก็จะออกทางผิว และตามข้อต่างๆของกระดูกทั่วร่างกาย  วันใดวันหนึ่งร่างกายเราเกิดการขัดของลมจะโดยการที่เราออกกำลังกายจนกล้ามเนื้อแข็งเกร็ง การใช้งานคอมพิวเตอร์จนเกิดอาการออฟฟิตซินโดรม การที่กล้ามเนื้อโดนกระแทก การที่เราโดนกระแทกจากอุบัติเหตุ จะโดยที่เรานอนไม่พอ ความเครียด หรือการกระทำใดๆก็ตามที่ทำให้กล้ามเนื้อแข็งตัว เกร็ง อาการต่างๆนั้นจะทำให้เลือดและลมไหลเวียนผ่านกล้ามเนื้อนั้นไม่สะดวก จึงทำให้เกิดการขัดของลมขึ้นมา
     ถ้าการรักษานั้นๆ ไม่สามารถทำให้ลมไหลเวียนได้เป็นปกติ อาการที่เกิดจากการขัดของลมก็จะสะสมเก็บไว้ จะกี่วันกี่ปีก็ตาม อาการขัดของลมครั้งนั้นก็จะคงอยู่
    สะสมอาการลมขัดของลมในทุกๆครั้งที่ไม่ได้รักษา จนวันใดวันหนึ่ง เมื่อเรามีอาการปวดอาการเดิมนั้นอีกครั้ง เราก็จะมีอาการปวดลึกเข้าไปด้านในกายเหมือนกับคำที่พูดกันว่า  ปวดเข้ากระดูก .
     อีกตัวอย่างคือ สมมุติว่าเมื่อ10กว่าปีก่อน เรามีอาการข้อเท้าแพลง  ข้อเท้าบวม ปวด เดินไม่ได้หลายวัน โดยการรักษา กินยา การนวดทั่วไป  จนในที่สุดอาการบวม อาการปวดก็หายไป เราเดินได้เป็นปกติ แต่ในปัจจุบันแม้จะผ่านมา10กว่าปีแล้ว บางครั้งเราเดิน เรายังมีอาการปวด เสียว แปลบๆตรงข้อเท้าที่เคยข้อเท้าแพลง ซึ่งอาการนี้แหละที่ว่า การขัดของลม ณ. เวลานั้นยังไม่ได้แก้ จึงทำให้อาการนั้นๆยังคาอยู่ภายใน

   และสำหรับอาการขัดของลมที่ยังคาอยู่นี้ เมื่อใดที่เรามีอาการขาแพลงขึ้นมาอีกครั้ง จะทำให้มีอาการปวดที่รุนแรงกว่าเดิมอีก

วันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2559

การนวด กับเจ้ากรรมนายเวร

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ    
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ
------    ------    ------    -------   ------    ------   ------   -------   -------
พุทเธ ธัมเม สังเฆ ปะมาเทนะ ทะวารัตตะ เยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราชัง ขะมะตุโน ภันเต
พุทเธ ธัมเม สังเฆ ปะมาเทนะ ทะวารัตตะ เยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราชัง ขะมะตุโน ภันเต
พุทเธ ธัมเม สังเฆ ปะมาเทนะ ทะวารัตตะ เยนะ กะตัง สัพพัง อะปะราชัง ขะมะตุโน ภันเต
           ------------------------------------------------------
     วันนี้พูดถึงเรื่องการนวด เป็นเรื่องในทางพุทธศาสนา เกี่ยวกับกรรมเวรที่มีต่อกันระหว่างตัวเราที่เป็นดวงจิตดวงหนึ่ง ที่มีกายหยาบ และเจ้ากรรมนายเวรซึ่งเป็นดวงจิตอีกหลายๆดวงที่เป็นกายทิพย์ที่อยู่ภายในร่างกายของเรา การเจ็บป่วยในเรื่องเส้นนี้ เริ่มจากการขัดของธาตุลมในกายของเรา อาการหลายๆอย่างเกิดขึ้นโดยมีลมเป็นต้นเหตุ ถ้าลมในกายเราไหลเวียนไม่ดี การเจ็บไข้ได้ป่วยอื่นๆก็จะเกิดตามมาอีกหลายอาการ ดังนั้นการที่เราจะรักษาอาการเจ็บป่วยที่เกิดจากเจ้ากรรมนายเวรนี้ สิ่งแรกคือ เราต้องระลึกว่า การเจ็บไข้ได้ป่วยของเรา เป็นการที่เจ้ากรรมนายเวรเขามาเบียดเบียนเราเพื่อให้เราชดใช้ในสิ่งที่เราเคยทำเขามาในอดีต เราเคยทำเขาเจ็บเขาจึงทำให้เราเจ็บ เมื่อเราคิดได้อย่างนี้ ก็อโหสิกรรมที่เขาทำให้เราเจ็บ และจะไม่เบียนเบียนกันต่อไปอีก แผ่บุญกุศลที่เราทำมาในวันนี้ และทุกๆวันที่ผ่านมาให้เขาไป เพื่อที่จะไม่มีเวรกรรมติดตามกันไปอีกในภายภาคหน้า