วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2559

แก้อาการขาแพลง

การบำบัดอาการเรื้อรังที่ข้อเท้า ( ข้อเท้าแพลง )
      เราอาจเคยข้อเท้าพลิก ข้อเท้าแพลง เรื้อรังมาเป็นเวลา 20-30ปีที่แล้ว แม้ในปัจจุบันอาการบวมที่ข้อเท้าจะหายแล้ว เราเดินได้ตามปกติเหมือนไม่มีอาการแล้ว ในบางครั้งเราจะรู้สึกว่ามีอาการเสียวแปลบๆ ลึกๆอยู่ที่ข้อตาตุ่ม อาการนี้เกิดจากการขัดของลม ที่เกิดบริเวณข้อเท้าที่เรายังไม่ได้บำบัดให้ลมในเส้นไหลเวียนได้เป็นปกติ  
ท่านวดที่บำบัดอาการนี้ให้คนป่วยอยู่ในท่านอนหงาย และท่านอนคว่ำ
        แนวเส้นที่ใช้แก้อาการนี้คือ แนวที่ลากผ่านโดยตรง ผ่านบริเวณข้อเท้า โดยกดนวดบริเวณแนวด้านบน เหนือบริเวณที่ปวดบวม ยังไม่ต้องกดที่บริเวณข้อตาตุ่ม คือเริ่มไล่ตั้งแต่ขาท่อนบนกระทุ้งลมให้ผ่านข้อเข่า ขาท่อนล่างกระทุ้งลมให้ผ่านข้อตาตุ่ม ข้อกระดูกเท้า ข้อกระดูกนิ้วเท้า
    เมื่อเรากดนวดไล่ลมที่ขัดอยู่บริเวณแนวเส้นขา จะมีปฏิกิริยาของการนวดไล่กระทุ้งอาการขัดของลมเริ่มตั้งแต่แนวขาท่อนบน กระทุ้งบริเวณข้อหัวเข่า แนวขาท่อนล่าง กระทุ้งบริเวณข้อตาตุ่ม บริเวณฝ่าเท้า หลังเท้า ข้างเท้าด้านนอก เมื่อลมที่ขัดอยู่ทะลุทะลวงไหลเวียนออกไปถึงแนวเท้า บริเวณตาตุ่มนอกแล้ว  อาการข้อเท้าแพลงเรื้อรังก็จะหายไป
                 
    ในกรณีที่เกิดอาการขาแพลงปัจจุบันทันด่วน เราสามารถนวดบำบัดอาการได้ทันที เราจะไม่ไปกดคลึงบริเวณที่มีอาการบวมตึงอยู่ เราจะกดไล่ลมที่อั้นอยู่บริเวณเหนือที่มีอาการ คือกดไล่ที่ขาท่อนบน และขาท่อนล่าง เพื่อกระทุ้งไล่ให้ลมแล่นผ่านข้อตาตุ่มออกไป หลังการบำบัด การเดินของคนป่วยจะดีขึ้นประมาณ 20% จะยังไม่เห็นเด่นชัด การเดินยังมีอาการแพลง เจ็บอยู่ที่ข้อตาตุ่มนอก คนป่วยต้องพักผ่อน หยุดเดิน ให้นอนพัก
( การฟื้นตัวของอาการนี้ นอนพักผ่อนให้เต็มที่ บางคนอาการขาแพลงหายในชั่วข้ามคืน วันรุ่งขึ้นเดินได้เหมือนคนปกติ )

วันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2559

พังผืดยึด

   ร่างกายเรา ท่อนกระดูกสองท่อนที่เชื่อมต่อกัน ข้อกระดูก เป็นตัวเชื่อมให้ท่อนกระดูกทั้งสองยึดติดกัน และบริเวณที่เป็นข้อ เป็นบริเวณที่ลมจะไหลเวียนออกนอกร่างกายได้
    ร่างกายเรา เส้นเลือดทั่วร่างกาย เมื่อผ่านจากท่อนกระดูกหนึ่ง ไปยังอีกท่อนกระดูกหนึ่ง เส้นเลือดที่ไหลผ่านข้อกระดูกนี้ เป็นเส้นเลือดเส้นเดียวกัน
และก็คือแนวเส้นเดียวกันที่ต่อเนื่องกัน
     เมื่อกล้ามเนื้อรอบๆกระดูกบาดเจ็บ ร่างกายจะสร้างพังผืดขึ้นมาโดยอัตโนมัติ เพื่อป้องกันไม่ให้กล้ามเนื้อบาดเจ็บเพิ่มขึ้น   
     อาการบาดเจ็บนั้นรวมถึงการที่เราปวดเรื้อรัง ปวดเมื่อยเรื้อรัง กล้ามเนื้อบาดเจ็บแล้วยังฝืนใช้งานกล้ามเนื้อนั้นอีก รวมถึงการกินยาคลายเส้น ยาแก้ยอก ที่ยาเข้าไปกดความรู้สึกเจ็บเอาไว้ แต่อาการไม่หายไปไหน ยังสะสมทวีความรุนแรง และเพิ่มความบาดเจ็บมากขึ้นไปเรื่อยๆ  ชั้นพังผืดก็มากขึ้นเรื่อยๆ 
   เปรียบเสมือนกับเราใส่กางเกง 5ชั้น เมื่อเราโดนทำโทษ โดนตี เราจะรู้สึกว่าโดนตีแต่ไม่รู้สึกเจ็บ ถ้าเราค่อยๆถอดกางเกงออกจาก 5ชั้น เหลือ4ชั้น เหลือ3ชั้น เหลือ2ชั้น และจนเหลือชั้นสุดท้ายเราจะรู้สึกว่าการที่เราโดนตีนั้นเจ็บที่สุด ชั้นในสุดเปรียบเหมือนอาการที่เราเป็นแล้วยังไม่ได้แก้

         ยิ่งนานวันไป อาการเริ่มต้นจะฝังอยู่ภายในลึกมากขึ้น พังผืดหนาขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นชั้นหนา ชั้นที่หนาขึ้นเรื่อยๆนี้จะไปมีผลต่อการขยับของกล้ามเนื้อนั้นๆ และถ้าอาการบาดเจ็บอยู่บริเวณข้อต่อกระดูกต่างๆ  มีผลทำให้การงอของข้อต่างๆไม่คล่องตัวเหมือนเมื่อก่อน นานวันเข้าแนวพังผืดที่เพิ่มชั้นมากขึ้น ส่งผลทำให้กระดูกแต่ละท่อน ขาดความยืดหยุ่น งอตามข้อไม่ได้

วันอาทิตย์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2559

เสียงดังที่เข่า

เสียงดังที่เข่า
    การนวดเส้น คือการนวดเส้นที่มีเลือดและลมแล่นอยู่      
    ลมไหลเวียนเข้าออกได้ทุกรูขุมขนของร่างกาย
    ลมออกตามข้อกระดูก ลมขัดตามท่อนกระดูก
   ในร่างกายเรา ท่อนกระดูกสองท่อนที่เชื่อมต่อกัน ข้อกระดูก เป็นตัวเชื่อมให้ท่อนกระดูกทั้งสองยึดติดกัน และบริเวณที่เป็นข้อ ตามอวัยวะต่างๆของร่างกาย เป็นบริเวณที่ลมจะไหลเวียนออกนอกร่างกายได้
    ร่างกายเรา เส้นเลือดทั่วร่างกาย เมื่อผ่านจากท่อนกระดูกหนึ่ง ไปยังอีกท่อนกระดูกหนึ่ง เส้นเลือดที่ไหลผ่านข้อกระดูกนี้ เป็นเส้นเลือดเส้นเดียวกัน
     ดังนั้นถ้าลมในกายไหลเวียนดี ลมสามารถเคลื่อนตัวไปได้ตั้งแต่ ปลายเท้า ลำตัว แขน ศีรษะ
   ถ้าเราเกิดอาการบาดเจ็บบริเวณหน้าขา ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหน้าขาบาดเจ็บ ลมไหลเวียนออกนอกกายได้ไม่ปกติ ลมที่ขัดอยู่บริเวณนั้นก็จะไปกดทับกล้ามเนื้อบริเวณนั้น ถ้าไปขัดบริเวณเข่าก็ไปกดทับกล้ามเนื้อรอบๆหัวเข่า ทำให้เราปวดหัวเข่า จริงๆแล้วเราไม่ได้ปวดหัวเข่าแต่เราปวดกล้ามเนื้อรอบๆหัวเข่า ถ้าเราทำให้ลมที่ขัดอยู่ตามท่อนกระดูกไหลเวียนออกที่ข้อได้ อาการปวดตามข้อจะหายไปเอง

อาการข้างเคียงที่จะได้รับหลังจากที่เรานวดไล่ให้ลมไหลออกจากท่อนกระดูกคือ เราจะมีเสียงลมออกตามเข่า จึงไม่ใช่อาการเข่าเสื่อม
 

วันจันทร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2559

การนวดที่เรื้อรัง

การนวดที่เรื้อรัง
     การนวดเส้น เป็นการนวดเส้นที่มีเลือดและลมแล่นอยู่ ดังนั้นการนวดที่ลมยังไม่มีการไหลเวียนออกนอกกาย ตามรูขุมขนต่างๆ จึงเป็นการนวดที่ยังไม่ครบขั้นตอน ก็จะทำให้อาการที่เกิดขึ้นในขณะนั้นๆ ที่ได้นวดบำบัดแล้ว ยังไม่ได้ได้รับการบำบัดในเรื่องของลม ทำให้เกิดอาการเจ็บเรื้อรัง จะบำบัดในวิธีใดๆ จะนานแค่ไหน อาการลึกๆของลมที่ยังไม่ไหลเวียนก็จะคงเก็บอยู่ 10ปี 20ปี ฯลฯ อาการที่ปวดเสียวลึกๆก็ยังคงอยู่ เช่นอาการข้อเท้าแพลง เรารักษาหายแล้ว แต่เวลาเดินก็ยังมีอาการเสียวแปลบๆ ลึกๆ ในข้อเท้า
     มีคนป่วยคนหนึ่ง อยู่แถวถนนพุทธมณฑลสาย3 เป็นผู้ป่วยเรื่องเส้น เกิดจากการประสบอุบัติเหตุ รถยนต์ที่ขับไปชนกับรถคันอื่น ศีรษะซีกขวาได้กระแทกกระจกอย่างแรง
     หลังประสบอุบัติเหตุ ก็รักษาทางแพทย์แผนปัจจุบัน จนอาการที่ปวด บวมจากการกระแทกนั้นหายไป
     หลังจากนั้น1-2ปี มีอาการปวดตึงซีกขวา ตั้งแต่ศีรษะ ตึงถึงเบ้าตา กกหู ตลอดลำตัว ลงไปถึงนิ้วเท้าซีกขวามือ อาการที่เป็นในซีกขวาเด่นชัด และเวลาที่อาการกำเริบก็จะเป็นที่ซีกขวา จนรับรู้ได้
     ส่วนซีกซ้าย มีอาการตึงธรรมดา ศีรษะซีกซ้ายเบาโล่งกว่าซีกขวาที่โดนกระแทก
     ใช้เวลาในการบำบัด ในแต่ละครั้ง ครั้งละ 3 ชั่วโมง ขณะกดนวดไล่ให้ลมไหลออกนอกกายนั้นซีกซ้ายเหมือนปกติที่นวดคือ นวดไปสักพักลมก็จะไหลออกนอกกาย ไปทางเท้า
    ส่วนการนวดไล่ให้ลมไหลออกนอกกายซีกขวา ซีกที่มีอาการปวดตึง  เมื่อกดนวดที่ขาเพื่อที่จะให้ลมไหลออกนอกกาย ไปทางเท้า กลายเป็นว่ามีการกระทุ้ง มีอาการตึงที่บริเวณศีรษะด้านขวาที่เคยโดนชนกระแทก โดยที่ไม่มีลมไหลลงด้านล่างที่ปลายเท้าเลย จนระยะเวลาหนึ่งจึงเริ่มมีลมเริ่มไหลลงผ่านเข่า  จนไปถึงข้อเท้า นิ้วเท้าขวา
     หลังจากนวดครั้งนั้นไปแล้ว ประมาณ 1-2 วัน อาการที่เป็นเรื้อรัง ( เคยเป็นแล้วเราไม่ได้แก้เกี่ยวกับลม )  ก็คลายตัวขึ้นมาอีก ร่างกายซีกซ้ายยังเบาอยู่ แต่ร่างกายซีกขวามีอาการปวดตึงขึ้นมาเหมือนเดิม แต่อาการปวดลึกๆน้อยลงไป
      นวดซ้ำแล้วซ้ำอีก จากนวดอาทิตย์ละครั้ง นานไปกลายเป็น2อาทิตย์นวด1ครั้ง  3อาทิตย์นวด1ครั้ง จนในปัจจุบันอาการที่ปวดมึนศีรษะ ตึงถึงเบ้าตา กกหู ตลอดลำตัว ลงไปถึงนิ้วเท้าซีกขวามือ อาการนี้หายเป็นปกติ คือนวดกดลงบนขา มีลมไหลลงผ่านเข่า  จนไปถึงข้อเท้า นิ้วเท้าขวา
         
    โทรปรึกษาได้นะครับ ธิติ ศุภโชติการกุล ( ผิ่น )
     086-775-7333  /    083-046-7409
Line ID – thiti.d.com

วันจันทร์ที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2559

การแพร่ของลม

  การแพร่ของลม
  จากความหมายของคำว่า นวดเส้นคือการนวดเส้นที่มีเลือดและลมแล่นอยู่ ย่อมหมายถึง การนวดบำบัดอาการเกี่ยวกับเส้น ที่ทำให้เลือดและลม ไหลเวียนได้เป็นปกติ การไหลเวียนเป็นการไหลเวียนลมที่เกิดจากการหายใจเข้า และการหายใจออก ตามรูขุมขนต่างๆทั่วร่างกาย เมื่อรูขุมขนตามร่างกาย บางแห่งมีการปิด ทำให้ลมที่จะแล่นไปออกบริเวณนั้นเกิดการขัด ไหลเวียนออกนอกกายไม่ได้ ทำให้เกิดความดันของลมที่ไปขัดอยู่บริเวณนั้น ไปกดทับกล้ามเนื้อ อวัยวะบริเวณนั้น   
   เปรียบแนวเส้นเหมือนการไหลเวียนน้ำในท่อระบายน้ำ ถ้าท่อระบายน้ำอุดตัน น้ำไหลไม่ได้ น้ำเต็มท่อ ถ้าเราลอกท่อระบายน้ำโดยการทะลวงท่อให้น้ำไหลได้ ผลที่ได้คือน้ำที่ค้างท่อก็จะไหลออกไปได้ แต่ที่มากกว่านั้นคือน้ำที่ท่วมค้างอยู่บนพื้น เหนือท่อระบายน้ำ ก็จะไหลตามลงไปด้วย
     เราจึงรู้สึกว่า หลังจากที่เรานวดไล่ให้ลมไหลออกที่หัวเข่า หรือไล่จนลมไหลออกตรงนิ้วเท้า อาการที่เราตึงปวดบริเวณสะโพก ( สลักเพชร)  เอว หลัง บ่า ของเรา ก็จะทุเลาไปในระดับหนึ่ง ทั้งที่เรายังไม่ได้ไปแตะบริเวณนั้น
    เนื่องจากลมที่ไหลออกที่หัวเข่า ออกตามข้อนิ้วเท้า ทำให้ลมบริเวณนั้นมีความหนาแน่นน้อยลง ความดันของลมบริเวณนั้นลดลงมา  อาการแน่น ปวดของกล้ามเนื้อบริเวณนั้นก็ลดลงมา ทำให้ขาเรามีความรู้สึกว่าเบาสบายขึ้น
     ส่วนแนวสะโพก ( สลักเพชร)  เอว หลัง บ่า ของเรา ขณะที่เรามีอาการตึง ปวด ลมบริเวณนั้นมีความหนาแน่นมาก ความดันของลมบริเวณนั้นไปกดทับกล้ามเนื้อ
      เมื่อเรานวดไล่ให้ลมที่ขาไหลออกหัวเข่า นิ้วเท้าได้ นั่นย่อมหมายถึงบริเวณนั้นมีความหนาแน่นของลมน้อยลง
      การนวดเส้นคือการนวดเส้นที่มีเลือดและลมแล่นอยู่ ดังนั้นลมจึงแพร่จากที่ๆมีความหนาแน่นมาก ไหลไปยังที่ๆลมมีความหนาแน่นน้อย  คือลมที่อั้นบริเวณด้านบนร่างกาย ก็ไหลลงมาที่แนวขา และไหลออกไปตามข้อเข่า ข้อตาตุ่ม ข้อเท้า ข้อนิ้วเท้า