วันศุกร์ที่ 27 มกราคม พ.ศ. 2560

ตัวอย่าง อาการกระดูกทับเส้น

กรณีตัวอย่าง หมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทขา

 คุณเบ๊นซ์ คือชายอายุ31ปี ซึ่งผมได้เชิญให้เข้ามาเป็นสมาชิกในกลุ่มนวดไล่ลม 2559 อยู่แถวพระประแดง จ.สมุทรปราการ เป็นผู้ป่วยที่ได้รับการแนะนำจากคนรู้จัก ที่เคยได้รับการบำบัดอาการ โดยการนวดไล่ลมจนอาการยกแขนไม่ขึ้นหายไป
        คุณเบ๊นซ์ ก็เหมือนคนทั่วๆไปที่ทำงาน คือมีอาการปวดเมื่อย ปวดหลังปวดเอวบริเวณซีกขวาที่สุด จนในที่สุดประมาณเดือนธันวาคม2559ทำงานไม่ได้ หยุดพักรักษาตัว อาการที่คอบ่าไหล่ ของลำตัวถึง แนวหลัง อาการดูเหมือนทุเลาลง แต่เริ่มจะมีอาการขัดที่สะโพก (สลักเพชร) นั่งพื้นแล้วลุกไม่ขึ้น
     จนกระทั่งอาการล่าสุดก่อนที่จะได้นวดไล่ลม ตอนเช้าตื่นนอนแล้วตึงปวดไปทั้งซีกขวา อาการปวดร้าวลงไปถึงนิ้วก้อยเท้า ยืนเดิน จนทำให้กิจวัตรประจำวันที่เคยทำได้ก็ทำไม่ได้ ขี่รถจักรยานยนต์ก็ไม่ได้ จะสะเทือนไปตามแนวเส้นประสาทขาถึงแนวนิ้วก้อยเท้า งานการก็ทำไม่ได้
    นวดบำบัดอาการโดยนวดไล่ลมในครั้งที่ 1 เมื่อ23มกราคม2559  ใช้เวลานวด2ชั่วโมง อาการที่เกิดขึ้นนี้ เกิดจากเส้นนวดในแนวนอนตะแคงเป็นหลัก
 จึงเริ่มต้นการนวดจากการให้คนป่วยนอนคว่ำ ไล่ลมเส้นนี้เพื่อให้อาการตึงที่มาจากด้านล่าง ฝ่าเท้า ส้นเท้า น่อง ขาท่อนบน ลมแน่นท้อง ลมเสียดลิ้นปี่ อาการตึงแนวเส้นหลังติดกระดูกให้คลายตัวลง
    แล้วจึงให้คุณเบ๊นซ์นอนตะแคง เพื่อไล่ให้ลมที่มาจากด้านบนของลำตัวให้ไหลเวียนออกนอกกาย โดยการเน้นกดลงบน
   แนวเส้นข้างขาด้านในท่อนบน
   แนวเส้นหน้าแข้งด้านใน
   เปิดประตูลมที่ตาตุ่มใน
   แนวฝ่าเท้าใต้ร่องนิ้วโป้ง-นิ้วชี้
กดให้ลมวิ่งผ่านออกหัวเข่า ออกข้อเท้า วิ่งผ่านออกนิ้วเท้า และเมื่อกดไล่แนวเส้นทั้งหมดนี้ จนร้อนวิ่งออกปลายนิ้วโป้งแล้ว ต่อไปเมื่อกดนวดไปตามแนวเส้นเดิม เวลาที่กดลงไปที่แนวเส้นบริเวณขา จะเริ่มมีการกระทุ้งขึ้นไปด้านบนเหนือจุดที่กดคือสะโพก (สลักเพชร)เมื่อคลายการกดน้ำหนักลงบนแนวเส้น สักพักหนึ่งก็จะเริ่มมีลมไหลจากจุดที่กดวิ่งร้อนลงปลายเท้า และในเวลาเดียวกันก็จะมีลมวูบแผ่วๆวิ่งไหลขึ้นไปที่สะโพก
     และเมื่อเรายังคงกดลงบนแนวเส้นตะแคงจุดเดิมๆ ลมที่วิ่งออกปลายเท้าก็ยิ่งร้อนมากขึ้น พร้อมกับลมที่วิ่งขึ้นสะโพกก็จะเริ่มร้อน ในขณะนั้นบริเวณเอวก็จะเริ่มมีอาการตึงปวดจากการกระทุ้งของลมที่เรากดนวดอยู่
       จากที่เคยบอกแล้วว่า อาการกระดูกทับเส้น คืออาการของลมที่เคลื่อนย้ายจากแนวด้านบนของร่างกายคือ คอ-บ่า-ไหล่ มาขัดอยู่ที่เอว ดังนั้นเมื่อเรานวดไล่ลมในแนวนี้ ลมที่วิ่งออกจะย้อนศรกลับไปด้านบน พอลมกระทุ้งกลับมาถึงเอวซึ่งเป็นจุดที่ลมไปกองสะสมอยู่ ( จนทำให้มีแรงดัน ความดันของลมไปดันไปกดทับหมอนรองกระดูกให้เคลื่อนออกจากแนวกระดูกสันหลัง ไปกดทับเส้นประสาทขา ) เมื่อลมไหลเวียนออกตามข้อ ออกไปปลายเท้า
     ต่อไปลมที่เคยวิ่งออกปลายเท้า ต่อไปก็จะวิ่งออกปลายเท้าพร้อมกับวิ่งร้อนขึ้นสะโพก และลมวิ่งร้อนขึ้นเอว ลมที่ขัดอยู่บริเวณเอวจะค่อยๆคลายตัว
     เอว ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้เกิดการกดทับเส้นประสาทขา เมื่อลมที่ขัดคลายตัวลง อาการเสียวแปลบตามแนวเอว และแนวเส้นประสาทขา คือบริเวณสะโพก ขา และตาตุ่มนอก นิ้วก้อย ก็จะค่อยๆหายไป โดยที่เราไม่ต้องไปกดนวดแนวเอว สะโพก แนวขาที่ปวดร้าว
   หลังจากที่นวดคุณเบ๊นซ์ไปในวันนั้น อาการดีขึ้น ยืนเดินได้ปกติ แต่ยังมีอาการขัดตรงสะโพกเล็กน้อย และตอนตื่นนอนอาการตึงตามเส้นก็หายไป จนกระทั่งอีก2วัน วันพุธที่25 อาการกำเริบขึ้นตามแนวเส้นและตามแนวเส้นประสาทขา จึงนัดนวดซ้ำครั้งที่2อีก1ชั่วโมง เน้นนวดแนวเส้นข้างขาด้านใน ไล่จนลมวิ่งร้อนออกเท้า วิ่งร้อนผ่านเอวในเวลาเดียวกัน
    จนวันนี้วันที่28ผ่านมาอีก3วัน คุณเบ๊นซ์บอกว่าอาการปวดหายไป ยังมีอาการหน่วงๆอยู่ที่แนวเอว เดินได้ ขี่จักรยานยนต์ได้ นอนตื่นไม่มีอาการตึงเหมือนเดิม

     ผมจึงขอยืนยันว่า ขัดที่สะโพก ขาเสียวชาถึงปลายนิ้วก้อยเป็นอาการที่เส้นประสาทขาโดนกดทับ เมื่อเราแก้ลมที่อั้นในเส้นนี้ให้ไหลเวียนออกนอกกายได้ อาการเรื้อรังที่แก้ไม่ได้ ก็จะค่อยๆทุเลาและหายไปเอง