วันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2560

กรรมสัมพันธ์

กรรมสัมพันธ์
 
        เคยได้ยินไหมว่า หมอคนโน้นเก่ง หมอคนนี้เก่ง ใครป่วยไข้อะไร ถ้าได้ไปให้รักษา อาการป่วยไข้นั้นก็หาย
        จริงๆแล้ว หมอทุกคนเก่งหมด คนที่จะรักษา บำบัดอาการป่วยไข้ให้คนอื่นได้ ต้องมีต้นทุนอยู่ที่ตัวเอง มีทั้งความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้มาในภพชาติปัจจุบันนี้  อีกทั้งปัญญา ความรู้ที่มาจากบุญบารมีเดิมๆ ฌานการรักษาที่ติดตามมาจากภพชาติก่อนๆ ทำให้บำบัดรักษาอาการที่เรื้อรังบำบัดไม่ได้ ให้หายได้
        ความรู้หรือปัญญาในอดีต ที่ติดตามมาในภพชาติปัจจุบันนี้ มีความสำคัญมาก เป็นภูมิความรู้เฉพาะตน เพียงแค่จะเริ่มใช้ความรู้นี้ ปัญญาความรู้เรื่องนี้ก็จะผุดขึ้นมา ให้เรารู้ ให้เราเข้าใจ แล้วนำภูมิปัญญานี้ไปต่อยอดกับความรู้ต่างๆที่เราได้เรียนรู้มา
        เมื่อร่างกายเราประกอบด้วยธาตุต่างๆคือธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ การเจ็บไข้ได้ป่วยของคนเรา จริงๆแล้วคือ ความไม่สมดุลของธาตุทั้งสี่ ทั่วไปแล้วเราจะได้รับการบำบัดเพียงแค่ธาตุดิน ธาตุน้ำเท่านั้น
        ธาตุลม ธาตุไฟ เป็นธาตุที่เราจับต้องไม่ได้ เครื่องไม้เครื่องมือต่างๆก็ไม่สามารถตรวจวัดได้ ก็จะมีแต่เพียงการนวด และการนวดนั้นก็ต้องเน้นทำให้ลมไหลเวียนออกนอกกายเราให้ได้  ไม่ใช่นวดแล้วลมไหลเปลี่ยนจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งในร่างกาย ซึ่งจะทำให้ร่างกายเราบาดเจ็บเรื้อรัง

         ที่สำคัญอีกอย่างคือ ผู้ป่วยและผู้รักษา มีกรรมที่สัมพันธ์ร่วมกันไหม ถ้าไม่มีกรรมที่สัมพันธ์ร่วมกัน ก็จะไม่มีโอกาสที่จะได้พบเจอกัน หรือมี โอกาสพบเจอกันแต่ไม่ได้รักษากัน  เช่นผู้ป่วยและผู้รักษาได้รับรู้กัน มีคนแนะนำ ให้รู้จักกัน แต่มีเหตุให้ ไม่ได้นวดรักษากัน เพราะเหตุผลต่างๆเช่น
        กลัวเจ็บ ทั้งๆที่ทุกวันนี้ก็เจ็บเรื้อรัง เจ็บทุกวันอยู่แล้ว
        ผู้ป่วยหญิงอยากได้ผู้นวดเป็นผู้หญิง เหตุผลคือไม่เคยนวดกับผู้ชาย ทั้งที่นวดกับผู้หญิงแล้วหลายครั้งก็ยังไม่หาย
        ไม่ว่างไม่มีเวลา ไม่มีเงิน
  ( เวลาป่วยหนักๆ ไม่ว่าง ไม่มีเงิน ต้องหยุดงานไปรักษา ค่าเดินทางไปรักษาเป็นพันเป็นหมื่นยอมควัก ผู้รักษาเป็นผู้ชายก็ยอมให้ผู้ชายรักษา เวลานวดเจ็บก็จะยอมทน เพราะทนอาการปวดไม่ไหวแล้ว )

         อีกด้านหนึ่งผู้ป่วยและผู้รักษา มีกรรมที่สัมพันธ์ร่วมกันไหม แล้วเจ้ากรรมนายเวรยอมอโหสิกรรมไหม
         ปกติแล้วถ้ากรรมที่สัมพันธ์กัน เคยเกื้อกูลกันมาในอดีต เมื่อถึงเวลาจะมีเหตุให้ได้เจอกัน มาช่วยเหลือกัน  เช่นผู้ป่วยกับผู้รักษาต่างคนต่างอยู่ คนละที่  จู่ๆให้ได้รู้จักกัน มาเจอกัน และต้องเป็นช่วเวลาที่เจ้ากรรมนายเวรในกายอโหสิกรรมให้แล้วนะครับ การรักษาจึงจะสัมฤทธิ์ผล
            เราจะเคยได้ยินว่า มีผู้รักษาอาการที่เก่งใครไปให้รักษาก็หาย  แต่เมื่อเราไปได้รับการรักษาจากหมอคนนั้น อาการก็ยังเหมือนเดิม ไม่ได้ดีขึ้น ที่เป็นเช่นนี้เพราะผู้เจ้ากรรมนายเวรในกายเรายังไม่อโหสิกรรมให้เรา ยังเบียดเบียนเราอยู่ ต่อให้หมอผู้รักษาเรานี้กรรมสัมพันธ์กับเรา ก็จะยังรักษาเราให้หายไม่ได้ จนกว่าเราจะน้อมบุญกุศลที่มีอานุภาพเพียงพอไปให้เจ้ากรรมนายเวรในขณะนั้น ให้เขายินยอม อโหสิกรรมให้เรา การรักษาถึงจะสัมฤทธิ์ผล
       ดังนั้นการรักษาจะส่งผลให้หายได้ ไม่เพียงแต่มีเงิน มีเวลา ไปรักษาเท่านั้นอาการป่วยไข้จะหายได้ การรักษาอาการนั้นๆจะต้องได้รับการอโหสิกรรมจากเจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้เราเจ็บป่วยในกาย ณ.ขณะนั้นด้วย และได้รักษากับหมอที่มีกรรมสัมพันธ์ และอุปถัมป์กันเท่านั้น การบำบัดอาการก็จะบรรลุผล หายได้ในที่สุด

วันพุธที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2560

พลังงานที่มากระแทกร่างกายแล้วไปไหน ( ตอน 7.11 )

พลังงานที่มากระแทกร่างกายแล้วไปไหน ( ตอน 7.11 )

ก้นกระแทก คุณเคยยืน เดินนานๆ จนปวดหลังปวดเอว
คุณเคยนั่งทำงาน นั่งขับรถนานๆจนปวดหลังปวดเอว
คุณเคยลื่นล้ม หงายหลัง แผ่นหลังฟาดพื้น
คุณเคยลื่นล้มก้นจ้ำเบ้า เวลาที่ก้นกระแทกพื้น
คุณเคยกระโดดลงมาจากที่สูง เมื่อฝ่าเท้าถึงพื้น คุณรู้สึกบาดเจ็บอย่างไรครับ

    ที่เกริ่นมานี้ต้องการแสดงให้เห็นอีกด้านหนึ่งของการบาดเจ็บ เป็นด้านที่เราไม่ได้กล่าวถึง และส่วนมากในการบำบัดรักษา จะไม่ได้แก้ไขในเรื่องนี้ เป็นเรื่องพลังงานที่สั่งสมเข้ามาในกายเรา จะโดยการซึมซับจากการใช้ชีวิตปกติในแต่ละวัน หรือพลังงานที่เข้ามาจากการกระแทก กระชากจากอุบัติเหตุต่างๆ ทุกกรรมทุกวาระ ทุกๆพลังงานที่เข้ามาจะสั่งสมอยู่ภายในกายเรา เปรียบเสมือนลมที่เป่าเข้าไปในลูกโปร่ง เป่าเข้าไปจนลูกโปร่งโต ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ลูกโปร่งโตจนความดันที่เกิดขึ้นภายในลูกโปร่งมีมาก มากจนผิวลูกโปร่งรับไม่ได้ ความยืดหยุ่นของผิวลูกโปร่งไม่มีเหลืออีกแล้ว สุดท้ายลูกโปร่งก็จะระเบิด
      แต่ผิวกายคนไม่ใช่ผิวลูกโปร่ง พลังงานที่สั่งสมเข้าไปในกายก็จะมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อลมไม่ไหลเวียนออกนอกกาย จะทำให้ความดันของลมที่ขัดอยู่ในกายเพิ่มขึ้นตามลำดับ ลมที่ขัดมากขึ้น หรือพลังงานที่สั่งสมมีมากขึ้นนั้น ไม่มีผลทำให้ผิวหนังเราระเบิดเหมือนผิวลูกโปร่ง ผิวหนังของเรามีความยืดหยุ่น เมื่อพลังงานสั่งสมมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วลมในกายไม่สามารถไหลออกนอกกาย ตามรูขุมขน ตามข้อกระดูกต่างๆ ตามรูทวารต่างๆ ทำให้ผิวหนังเราก็จะยืดขยายออกไป ( เหมือนคนที่ตั้งครรภ์ ที่อายุครรภ์ยิ่งมาก ท้องก็ยิ่งขยาย โตออกไป ท้องจะยุบลงมาได้ก็ต่อเมื่อได้คลอดลูกออกมาแล้วเท่านั้น )

      ความดันของลมในช่องท้อง ขึ้นอยู่กับการสั่งสมของพลังงานมากขึ้น ลมไม่สามารถไหลเวียนออกนอกกายได้ ยิ่งนานวัน ยิ่งสะสมเพิ่มขึ้น ยิ่งไปกดทับกล้ามเนื้อให้มีอาการเจ็บปวด ไปกดทับอวัยวะมีผลทำให้อวัยวะนั้นๆทำงานไม่อยู่ในสภาวะปกติ ความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้ออวัยวะเสียสภาพไปชั่วขณะ
      เช่นอาการจุกเสียด ลมแน่นที่ช่องท้อง ลมหรือพลังงานที่อยู่แน่นในช่องท้องก็จะไปกดทับกระเพาะอาหาร หรือบีบกระเพาะอาหาร เมื่อกล้ามเนื้อกระเพาะอาหารหดตัวแล้วกล้ามเนื้อกระเพาะอาหารขยายตัวขึ้นมาไม่ได้ ขนาดของกระเพาะอาหารก็จะเล็กกว่าในสภาวะปกติ พลังงานกลที่ช่วยในการย่อยอาหาร คือช่วยคลุกเคล้าน้ำย่อยและอาหาร จึงลดประสิทธิภาพการย่อยอาหารลงไป

      ถ้าเราทำให้ลมในกายไหลเวียนออกนอกกายได้ ลมที่ไหลออกจะลากพลังงานที่สั่งสมอยู่ออกนอกกายไปด้วย ทำให้ลมในช่องท้องคลายตัว ท้องแฟบลง ส่งผลให้การทำงานของอวัยวะที่เสียสภาพไปนั้น ฟื้นตัวกลับมาโดยอัตโนมัติ อาการป่วยของเราก็จะทุเลาและหายไปในที่สุด

วันจันทร์ที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2560

การนวดกับเจ้ากรรมนายเวร ( 3/3 )

การนวดกับเจ้ากรรมนายเวร  ( 3/3 )

-คำขอขมากรรม
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต,อะระหะโต,สัมมาสัมพุทธัสสะ .(3 จบ)
        ด้วยอานุภาพ คุณพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ พระศรีอริยเมตไตรย พระอุปคุต หากข้าพเจ้าเคยทำผิดต่อคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยกาย วาจา ใจ ไม่ว่าจะในภพใดชาติใดก็ตาม ด้วยการประมาทพลาดพลั้ง ปรามาส ลบหลู่ ดูหมิ่น ล่วงเกิน เบียดเบียน ทำร้าย ผู้ใดให้ได้รับทุกข์ทางกาย และใจ เคยทำลายศาสนสถาน ศาสนวัตถุ ศาสนธรรม หรือเคยขวางการกระทำกรรมดี ขวางการปฏิบัติธรรม ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ พระอริยสงฆ์ มีองค์หลวงปู่เจือ สุภโร เป็นที่สุด พระโพธิสัตว์ พระอริยบุคคล ผู้ประพฤติปฏิบัติธรรม ผู้มีฌาน มีอภิญญา ผู้มีศีลมีธรรม รวมถึงบิดามารดา ครูบาอาจารย์ บรรพบุรุษ วงศาคณาญาติ ภรรยาสามี ผู้มีพระคุณ บริวาร เทพพรหมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้ากรรมนายเวร ศัตรูหมู่มาร ทั่วโลกทั่วจักรวาล ข้าพเจ้ากระทำไปด้วยความโง่ความหลง บัดนี้ข้าพเจ้ารู้เห็นโทษนั้นแล้ว ขอให้ท่านทั้งหลายโปรดอดโทษเว้นโทษให้แก่ข้าพเจ้า นับแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่ มรรคผล นิพพานเทอญ
 .......... 
         ด้วยข้าพเจ้า ปรารถนาที่จะปฏิบัติตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หากในภพใดชาติใดได้เคยร่ำเรียน เดรัจฉานวิชา เวทมนต์ คาถา อาคม มนต์ดำ มนต์กาม มนต์เสน่ห์ คุณไสย อักขระ เลขยันต์ ทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่ปรารถนาจะได้วิชาเหล่านี้แล้ว ขออธิษฐานถอดถอนหากยังมีติดอยู่ในกายในจิตของข้าพเจ้า และเคยทำใส่ หรือผูกมัด กักขังดวงจิตดวงวิญญาณใดก็ตาม ขอปลดปล่อยท่านทั้งหลายให้เป็นอิสระ และที่ทำใส่ ธาตุดิน น้ำ ลม ไฟ อากาศ แร่ธาตุทุกชนิดทุกจำพวก ทั่วโลกทั่วจักรวาล หรือมีผู้ใดทำใส่ข้าพเจ้า ก็ขอให้เสื่อมสลายมลายสิ้นไป กลับเป็นธาตุบริสุทธิ์ ไม่สามารถนำกลับมาใช้ได้อีก รวมถึงคำสาปแช่ง อาฆาตแค้น พยาบาท จองเวร จองกรรม คำสัญญาสาบาน คำอธิษฐานใดๆ ทั้งต่อตนเองและผู้อื่น ที่ขวางต่อการปฏิบัติ ขอให้เสื่อมสลายเป็นโมฆะ ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน กราบขอขมาขออโหสิกรรม ทุกกรรมที่เคยกระทำไปด้วยความโง่ความหลง บัดนี้ได้สำนึกผิดแล้ว ขอให้ท่านทั้งหลาย ได้โปรดอดโทษ และอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้า ขอบุญกุศลที่ข้าพเจ้าบำเพ็ญมา จงเข้าไปอยู่ในกายในจิตของท่านทั้งหลาย ให้ท่านทั้งหลายมีความสุขพ้นจากทุกข์ และขออาราธณาเทพพรหมทั้งหลายที่ได้มรรคผลแล้วได้โปรดอนุเคราะห์ดวงวิญญาณเหล่านั้นให้ได้มรรคผลเช่นเดียวกับท่านทั้งหลายด้วยเถิด ด้วยอานุภาพคุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระอริยสงฆ์
        สาธุ สาธุ  สาธุ  ......
******************************************************************************

- คำกล่าวเพื่อช่วยเจ้ากรรมนายเวร  ( น้อมจิตถึงเจ้ากรรมนายเวร )

นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต,อะระหะโต,สัมมาสัมพุทธัสสะ. (๓ จบ)
        ข้าพเจ้าขออาราธนาอานุภาพขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสงฆ์ พระศรีอาริยเมตไตรย พระอุปคุต พระโมคคัลลานะ พระสารีบุตร หลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น ท่านพ่อลี หลวงปู่เจือ สุภโร  พระโพธิสัตว์กวนอิม พระศิวะ พระนารายณ์ ท้าวมหาพรหม ท้าวเวสสุวรรณ พระยายมราช และบุญกุศลที่ข้าพเจ้าบำเพ็ญมา จงเข้าไปอยู่ในกายในจิตเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้า และเจ้ากรรมนายเวรของผู้มีกรรมสัมพันธ์กับข้าพเจ้า ให้คลายจากทุกข์ และได้เห็นผลกรรมตามความเป็นจริง เกิดความเบากายเบาใจ และได้มาปฏิบัติตามคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อให้ถึงความสิ้นทุกข์ด้วยเถิด สาธุๆๆ .........
      ขอท่านทั้งหลายกล่าวตามข้าพเจ้าเพื่อให้ถึงความสุขยิ่งๆขึ้นไป

- ขอขมาพระรัตนตรัย
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต, อะระหะโต, สัมมาสัมพุทธัสสะ. (๓ จบ)
พุทเธ ธัมเม สังเฆ ปะมาเทนะ ทวารัตตะเยนะกะตัง สัพพัง อะปะราธัง ขะมะตุโนภันเต. (๓ จบ)
สาธุ สาธุ สาธุ.......
-อาราธนาศีล
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต, อะระหะโต, สัมมาสัมพุทธัสสะ. (๓ จบ)
พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ทุติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ทุติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ
ตะติยัมปิ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ ตะติยัมปิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ

ปาณาติปาตา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
อะทินนาทานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
มุสาวาทา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
สุราเมระยะมัชชะปะมาทัฏฐานา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
อิมานิ ปัญจะ สิกขาปะทานิ สะมาทิยามิ. (๓ จบ)
 สาธุ สาธุ สาธุ ....

-สอนสมาธิให้กายทิพย์-
รู้สติที่กายทั่วกาย เห็นกายทั่วกาย เห็นลมทั่วโลก หายใจเข้ารูจมูก ลมออกทั่วกาย ออกทุกรูขุมขนทั่วกาย หายใจออกรูจมูก ลมเข้าทั่วกาย เข้าทุกรูขุมขนทั่วกาย
สาธุ สาธุ สาธุ....
        ท่านใดพ้นทุกข์แล้ว ขอให้ท่านน้อมกราบพระพุทธเจ้า กราบองค์หลวงปู่เจือ สุภโร ธรรมใดที่ท่านได้บรรลุแล้วขอจงมาบังเกิดมีแก่ข้าพเจ้าและผู้มีกรรมสัมพันธ์กับข้าพเจ้าให้ปฏิบัติถึงมรรคผลนิพพานได้โดยง่ายในภพชาตินี้ด้วยเถิด ด้วยอานุภาพคุณพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ สาธุ สาธุ สาธุ.......

การนวดกับเจ้ากรรมนายเวร ( 2 / 3 )

การนวดกับเจ้ากรรมนายเวร  ( 2 / 3 )

        จากที่กล่าวว่า เมื่อเรานวดแล้วลมไหลออกนอกกาย ลมจะเป็นพาหนะนำพาเอาพลังงานที่สั่งสมอยู่ภายในกายเรา ให้ไหลออกนอกกายไป อีกมุมหนึ่งก็คือลมที่ไหลออกนอกกายก็จะนำพาเจ้ากรรมนายเวรให้ออกนอกกายไป
         ดังนั้นอาการต่างๆ ที่เกิดขึ้นในกายนี้ เช่นการผายลม การเรอ การหาว การไอ จาม การสะอึก การที่เราขยับแล้วมีเสียงดังตามข้อต่างๆ อาการเหล่านี้เป็นระบบป้องกันของร่างกายเรา เพื่อปรับสมดุลของลมในกายเรา เมื่อลมในกายขัดไม่ไหลเวียนออกนอกกาย ปริมาตรของลมไม่ได้มีมากไปกว่าขนาดของรูปร่างของกายเรา ลมที่ไหลเวียนมาในกายก็มีปริมาตรเท่าเดิม เพียงแต่ลมไหลเวียนออกไม่ได้ การนำพาพลังงานหรือเจ้ากรรมนายเวรให้ออกมานอกกาย เจ้ากรรมนายเวรก็ออกไม่ได้เหมือนกัน พลังงานที่สั่งสมนี้แหละที่ไปกระทบกับกายเรา ( ธาตุดิน ธาตุน้ำ ) 
         พลังงานสะสมในกายมากๆ ความดันของพลังงานก็สั่งสมมากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน จะไปกดทับกล้ามเนื้อ กดทับกล้ามเนื้อของอวัยวะ ไปเต็มในช่องท้อง ไปเต็มในกระโหลกศีรษะ ความดันของพลังงานที่มีมากก็จะไปห้อมล้อม กดทับ บีบทำให้อวัยวะต่างๆทำงานด้อยประสิทธิภาพลง
เช่นกระเพาะอาหารโดนพลังงานที่สั่งสมมากๆบีบ ทำให้การหดขยายของกล้ามเนื้อกระเพาะอาหารเสียสภาพไป คือหดตัวแล้วขยายตัวขึ้นมาไม่ได้ จึงทำให้เราเกิดอาการจุกเสียด ลมแน่นท้อง อาหารไม่ย่อย ต่อไปก็เกิดอาการกรดไหลย้อน ถ้าเราทำให้ลมไหลเวียนออกนอกกายได้ ลมในช่องท้องที่น้อยลง ย่อมหมายถึงพลังงานที่ห้อมล้อมน้อยลง การกดทับ บีบกระเพาะก็จะน้อยลงไปเรื่อยๆ กระเพาะอาหารก็จะกลับมาบีบตัวคลายตัวได้ตามปกติ อาการอาหารไม่ย่อย กรดไหลย้อนก็จะคลายหายไปเอง

       เวลาที่ลมขัดในกาย จริงๆแล้วก็คือลมไม่สามารถไหลออก-เข้าตามรูขุมขนได้ตามปกติ การนวดไล่ลม จะเป็นการนวดกระทุ้งลม ที่คั่งค้าง ขัดตามรูขุมขนให้รูขุมขนเปิด เพียงแค่เรากดนวดที่ขาเราสามารถกระทุ้งแก้อาการขัดของลม ให้ไหลโล่ง ลมวิ่งร้อนออกทั้งซีกร่างกาย เริ่มจากออกปลายเท้า ปลายแขน ศรีษะ ได้ในเวลาเดียวกัน  ดังนั้นถ้าเราทำให้ลมไหลเวียนเข้า-ออกนอกกายตามรูขุมขนทั่วกายได้เป็นปกติ พลังงาน ( ดวงจิต หรือเจ้ากรรมนายเวร ) ที่คั่งค้างอยู่ในกายเรา ก็จะไหลออกตามลมออกมา การเจ็บป่วยเราก็จะหายไปเอง
 
       การเบียดเบียนของเจ้ากรรมนายเวรจึงทำให้เราเกิดการเจ็บป่วย การบำบัดจะให้ผลอย่างไรจึงขึ้นอยู่กับว่าขณะนั้น เจ้ากรรมนายเวรเขาคลาย เขาอโหสิให้เราหรือยัง ถ้ายังการบำบัดก็จะไม่ส่งผลดี เวลานวดก็เจ็บ นวดเสร็จก็ยังเจ็บ ลมก็ไม่ไหลเวียนออกตามข้อ ไม่ไหลออกตามทวาร ไม่ไหลออกปลายมือปลายเท้าศีรษะ 
       การนวดบำบัดอาการต้องมีบุญบารมีที่สั่งสมของผู้นวด การอยู่ในศีลในธรรม และมีญาณของครูบาอาจารย์ที่เสริมเป็นพลัง
       ถ้ามีกำลังพอ เจ้ากรรมนายเวรเมื่อเขาได้บุญ เขาก็จะคลายความอาฆาต และอโหสิกรรมให้ การบำบัดก็จะส่งผล

        แต่ที่ผมได้พบ เป็นกรณีที่ยิ่งแปลกขึ้นไปอีก เป็นกรณีที่ได้นวดบำบัดอาการให้กับพระสงฆ์ ท่านเป็นพระอุปัฎฐากดูแลพระเถระรูปหนึ่ง ท่านมีอาการ เกี่ยวกับเส้น ปวดศีรษะ ไอบ่อย มีเสลดมาก ปวดบ่า ปวดหลัง ปวดขา นอนไม่หลับมาเป็นเดือน ท่านรู้สึกเหม็นกลิ่น กลิ่นเหมือนของโดนเผาไหม้เหม็นจากภายในกาย ดูร่างกายอ่อนเพลีย ไม่มีกำลัง อาการนี้มีมาประมาณ1เดือนแล้ว
         ท่านสัมผัสได้ว่า อาการที่เกิดนี้เกิดจากเจ้ากรรมนายเวร กลิ่นไหม้ก็เกิดจากกรรมที่ไปเบียดเบียนเผาเขามาในอดีต
 
         ได้เริ่มนวดไปประมาณ 2 ชม ปรากฎว่า อาการทางซีกซ้ายทุเลา เบาลง ลมไหลร้อนออกถึงปลายเท้าได้ แต่อาการทางซีกขวาทั้งซีก ยังมีอาการเหมือนเดิม ลมไม่เดิน ยังมีอาการแน่นที่ซีกขวาทั้งซีกอยู่
          จึงคิดได้ว่าเป็นกรณีไม่ปกติ เมื่อคนนวดมีบุญ-บารมีไม่เพียงพอ ก็จะไม่สามารถแก้ไขให้เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้ได้  จึงได้ให้หลวงพี่ท่านนี้ ขอขมาเจ้ากรรมนายเวร และถอดถอนคำสัญญาสาบานต่างๆ ตามที่ปฏิบัติอยู่ในสำนักสงฆ์ หลวงปู่เจือ สุภโร
      ให้ท่านสื่อกับเจ้ากรรมนายเวรนั้น ให้เจ้ากรรมนายเวรนั้นน้อมจิตกล่าวตาม โดยสอนให้ดวงจิตเจ้ากรรมนายเวรนั้นขอขมาพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์ และกล่าวนำให้เขาอาราธนาศีล และสุดท้ายกล่าวสอนให้ดวงจิตนั้นทำสมาธิ
     ปรากฎว่าหลังจากนั้นไม่เกิน5นาที สังเกตุเห็นอาการขนลุก ที่ซีกขวาบริเวณที่ๆมีอาการค้างคาอยู่  ขนลุกต่อเนื่องเป็นเวลานานร่วม10นาที หลังจากนั้นอาการซีกขวาก็ดีขึ้น อาการขนลุกหายไป อาการที่ขับเสลดบ่อยก็หายไป อาการที่เหม็นเหมือนอะไรโดนเผาก็หายไป การหายใจดีขึ้น มีอาการเพลียอยากนอน อาการตึงเมื่อยหายไป

      หลังจากนวดเสร็จ ประมาณช่วงเวลาตี1 ท่านจำวัตร รุ่งขึ้นร่างกายสดชื่น มีกำลัง เป็นวันแรกในรอบ1เดือนที่ท่านมีกำลัง ไปบิณฑบาตรได้ และหลังจากวันนั้นมาอาการโดยรวมท่านดีขึ้นเรื่อยๆ
     
       ดังนั้นการที่เราได้รับการเบียดเบียนจากเจ้ากรรมนายเวร ที่แค้นเรามากๆ ก็ต้องน้อมบุญบารมีพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ พ่อแม่ครูบาอาจารย์ เทพพรหมที่ได้มรรคผลแล้ว ให้มาเป็นกำลัง ให้ดวงจิตนั้นได้เปลี่ยนภพภูมิ     ความอาฆาตแค้นก็จะดับไปเอง อาการเจ็บป่วยก็จะคลายออกไปเอง

ธิติ ศุภโชติการกุล
81/494.มบ.วิเศษสุขนคร ซ8 ถ.ประชาอุทิศ ซ79
 แขวง-เขตทุ่งครุ กท 10140

Dtac 086-775-7333. True H 083-046-7409

Line ID thiti.d.com   หรือเบอร์โทร 0867757333

FaceBook ---- Thiti Suppachokkarnkul 

วันพฤหัสบดีที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2560

การนวดกับเจ้ากรรมนายเวร ( 1/3 )

การนวดกับเจ้ากรรมนายเวร  ( 1/3 )

     การนวดเส้นคือการ
นวดเส้นที่มีเลือดและลมแล่นอยู่  การนวดที่ดีจึงเป็นการนวดปรับสมดุล ทำให้ธาตุทั้งสี่คือดินน้ำลมไฟเกิดความสมดุล กล้ามเนื้อไม่ตึง พังพืดคลายตัว เลือดไหลเวียนได้ดีขึ้น ลมไม่ติดขัดในกาย และไม่มีอาการร้อนวูบวาบในกาย การป่วยไข้ของเราก็จะคลายตัวหายไปเอง
      จากที่เคยกล่าวว่า พลังงานที่สะเทือนเข้ามาในร่างกายเราตามข้อ ทวารต่างๆ รูขุมขนทั่วร่างกาย ฯลฯ   จริงๆแล้วพลังงานที่ว่านี้ อีกมุมหนึ่งก็คือเจ้ากรรมนายเวร ถ้าเราทำให้ลมในกาย ทำให้ลมตามเส้นไหลเวียนออกนอกกายไปได้ พลังงานที่กระทบเข้ามาหรือเจ้ากรรมนายเวรก็จะไหลออกนอกกายเราโดยมีลมที่ไหลร้อนวิ่งออกนอกกาย ลมเป็นเพียงผู้นำพาเจ้ากรรมนายเวรในแต่ละวาระให้ออกไปจากกายเราเท่านั้น
       ร่างกายเรา ผิวกายเปรียบเสมือนผิวลูกโปร่ง เมื่อเป่าลูกโปร่งให้โตเกินไป ลูกโปร่งก็แตก เป่าให้โตเต็มที่ลูกโปร่งก็แข็ง ถ้าปล่อยลมให้แฟบลงมาลูกโปร่งก็นิ่ม
       ธาตุลมในกายเราเรามองไม่เห็น แต่เราสัมผัสได้ โดยเฉพาะผู้ที่ป่วยมีอาการเกี่ยวกับลมขัด ลมไหลเวียนออกนอกกายได้ไม่ดี ผิวกายเราเหมือนผิวลูกโปร่ง ต่างกับลูกโปร่งตรงที่เป่าลมใส่ลูกโปร่งมากเกินไปลูกโปร่งก็แตก ส่วนผิวกายเราถ้าลมในกายแน่นมากๆ ผิวกายเราไม่มีการปริ แตก หรือระเบิดออกมา จะมีแต่เพียงความดันของลมที่เกิดขึ้นบริเวณนั้น จะไปกดทับกล้ามเนื้อ กดทับอวัยวะของกล้ามเนื้อให้เกิดการปวด ทำให้อวัยวะนั้นๆทำงานได้ด้อยประสิทธิภาพลง 
      ลมในกายไหลออกไม่ดี มีอาการขัดตามเส้น ลมแน่นในกระโหลกศีรษะ ลมแน่นในช่องท้อง รูขุมขนตามอวัยวะที่มีปัญหาลมขัด รูขุมขนจะปิด พลังงานที่สั่งสมอยู่ภายในจึงไม่สามารถระบายออกตามรูขุมขนได้ จึงเกิดการสั่งสมพลังงาน นานวันเข้าก็จะเกิดความร้อนขึ้นมา เป็นอาการร้อนวูบวาบ อาการปวดแสบปวดร้อน อาการปวดลึกๆเหมือนปวดเข้ากระดูก
       นวดไล่ลม เป็นเพียงแค่การทำให้ลมในกาย ลมตามเส้นไหลเวียนออกนอกกายได้ ให้เป็นปกติ เมื่อลมไหลเวียนออกตามรูขุมขนได้ ลมก็จะนำพาพลังงาน ซึ่งอีกมุมหนึ่งก็คือเจ้ากรรมนายเวรให้ออกนอกกายไปได้ อาการป่วยเรื้อรังก็จะค่อยๆหายไปเอง     

ธิติ ศุภโชติการกุล
81/494.มบ.วิเศษสุขนคร ซ8 ถ.ประชาอุทิศ ซ79
 แขวง-เขตทุ่งครุ กท 10140

Dtac 086-775-7333. True H 083-046-7409

Line ID thiti.d.com   หรือเบอร์โทร 0867757333

แก้อาการด้วยตนเองในคราวฉุกเฉิน

แก้อาการด้วยตนเองในคราวฉุกเฉิน

    ในกลุ่มไลน์ นวดไล่ลม 2559 ที่มีข้อกำหนดในการ งดส่งข้อความต่างๆ การสนทนา สติ๊กเกอร์ รูปภาพ วีดีโอ ต่างๆ รวมทั้งการส่งรายละเอียดและวิธีการรักษาอื่นๆ สมุนไพร การนวด การบำบัดต่างๆ ที่นอกเหนือจากการนวดเพื่อแก้ปัญหาของลมในกาย
     ก็เพื่อเป็นประโยชน์โดยรวมสำหรับสมาชิกในกลุ่ม กลุ่มนี้วัตถุประสงค์ตั้งเพื่อ แนะนำ ให้ผู้ที่มีวิชาชีพในด้านการบำบัดอาการเจ็บป่วยโดยแพทย์ทางเลือก และผู้ป่วยที่เจ็บป่วยด้วยอาการเส้น อาการลมขัดในกาย ให้เข้าใจว่าที่อาการป่วยของเราเรื้อรัง ไม่ดีขึ้น สาเหตุมาจากอะไร
     ในกลุ่มไลน์ นวดไล่ลม2559 นี้ เปิดพื้นที่ให้ทุกๆท่านสามารถสอบถาม การเจ็บป่วยที่เกิดจากเรื่องลมขัดในกาย สามารถสอบถามเข้ามาในกลุ่มนวดไล่ลม2559 นี้ได้เลยไม่ผิดกติกา
       แต่ถ้าต้องการสอบถามในเรื่องอื่นๆ กรุณาแชทเข้าไลน์ส่วนตัวนะครับ

      คุณพรีม สมาชิกของกลุ่มนวดไล่ลม2559 คุณพรีมเป็นสมาชิกที่เพื่อนแนะนำเข้ามา เป็นผู้ประกอบวิชาชีพนวด อยู่ที่เยอรมัน  เมื่อสามวันที่ผ่านมาคุณพรีมประสบปัญหา มีลมในช่องท้องมาก ทานสมุนไพร และกดท้องแล้วก็ไม่ดีขึ้น จึงได้แชทมาเพื่อขอคำแนะนำ
       ผมจึงแนะนำให้ บำบัดโดยเน้นการไล่ลมที่ขัดในเส้น ให้ลมไหลออกนอกกาย โดยวิธีการนวดเหมือนปกติ แต่เน้นการกดนวดเนิบๆ ค่อยๆลง ค่อยๆขึ้น บริเวณแนวเส้น ท่านอนคว่ำ ให้กดนวดบ่อยๆ ลมไหลออกปลายเท้าท้องก็จะเบา
      แนะนำไป และตามผลไป1-2 วัน อาการดีขึ้น ลมแน่นท้องทุเลาลงแล้ว

ธิติ ศุภโชติการกุล
81/494.มบ.วิเศษสุขนคร ซ8 ถ.ประชาอุทิศ ซ79
 แขวง-เขตทุ่งครุ กท 10140

Dtac 086-775-7333. True H 083-046-7409

Line ID thiti.d.com   หรือเบอร์โทร 0867757333

FaceBook ---- Thiti Suppachokkarnkul