วันพฤหัสบดีที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

ความสัมพันธ์ ลมและพลังงาน

นวดไล่ลม-คลายพลังงาน
ความสัมพันธ์ ลม และ พลังงาน

      1. จากความหมายของการนวดเส้น การนวดเส้นคือการนวดเส้นที่มีเลือดและลมแล่นอยู่ นั่นหมายถึง ในเส้นเลือดเรามีลมไหลเวียนอยู่ภายในแนวเส้นด้วย
  เลือดคือของเหลว ( ธาตุน้ำ )
  ออกซิเจน ( ในเลือดแดง )  และคาร์บอนไดออกไซด์ ( ในเลือดดำ ) เป็นก๊าซ ( ธาตุลม )
  ดังนั้นความหมายของการนวดเส้นนั้น อธิบายลึกเข้าไปถึง ธาตุลมออกซิเจนในเส้นเลือดแดง หรือคาร์บอนไดออกไซด์ในเส้นเลือดดำ แต่บังเอิญว่าเราไม่สามารถมองเห็น สัมผัสไม่ได้กับธาตุลมในแนวเส้น เราจึงคิดไม่ถึงว่ามีลมแล่นอยู่ในเส้นเลือดด้วย
       2. ทุกๆอิริยาบทของเรา จะมีพลังงานจากนอกร่างกาย ปะทะแล้วซึมซับเข้ามาในร่างกายเรา
       เข้าจากทวารต่างๆของร่างกาย ตา ( พลังงานแสง )  หู ( พลังงานเสียง ) ปาก จมูก ทวารหนัก ทวารเบา และเข้ามาทางใจ ( ความคิด ความเครียด )
       พลังงานเข้ามาทาง ระยางแขน ขา ศรีษะ เช่น กระโดดจากที่สูงแล้วปวดตึงขึ้นแนวหลัง ยกของหนักจนปวดลงขา ศรีษะกระแทกจนแขนชา
       ลมในร่างกายเรามี ไม่มากเกินกว่าขนาดของผิวกายเรา
       ลมในร่างกายเราเคลื่อนไหลไปตามแนวเส้น
       ในสภาวะปกติ ลมในร่างกายเราเคลื่อนไหลเข้าและออกนอกร่างกาย ทั่วทุกรูขุมขนทั่วร่างกาย ลมออกตามทวารต่างๆ ตา หู ปาก จมูก ทวารหนัก ทวารเบา
       ในสภาวะไม่ปกติ ลมในร่างกายเราไม่สามารถเคลื่อนไหลเข้าและออกนอกร่างกาย บริเวณรูขุมขนตามท่อนกระดูกได้
       ในสภาวะไม่ปกติ ลมในร่างกายเราสามารถเคลื่อนไหลเข้าและออกนอกร่างกาย บริเวณรูขุมขนตามข้อกระดูกได้ จะเกิดเสียงเหมือนกระดูกลั่น ( เสียงข้อดัง ) อาการปวดเมื่อยก็จะทุเลาลง

        พลังงานปะทะเข้ามา และสั่งสมอยู่ในร่างกาย พลังงานนี้ จะเข้า จะออกนอกร่างกายเรา ก็ต้องอาศัยเคลื่อนไปกับพลังงานลมที่เคลื่อนอยู่ในแนวเส้น
       เมื่อธาตุลมในกายเกิดอาการขัด ธาตุลมไม่สามารถเคลื่อนไหลออกนอกร่างกาย พลังงานที่เคยเข้ามาก็จะไม่สามารถเคลื่อนไหลออกไปนอกร่างกาย จะเกิดการสั่งสมของพลังงานที่แนวเส้น ที่แนวท่อนกระดูก
      จึงเกิดพลังงานอีกอย่างหนึ่ง ที่หลายๆคนเป็นอยู่ คือเกิดไฟฟ้าสถิตอยู่ในร่างกาย บางคนเมื่อไปแตะจับรถเข็นในห้าง พลังงานที่สั่งสมในกายเราก็จะเคลื่อนผ่านไปที่รถเข็น เป็นอาการเสียงดังเหมือนไฟช็อต
      พลังงานที่สั่งสมอยู่ในร่างกาย สั่งสมนานขึ้น จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี จากหนึ่งปีเป็นสิบๆปี ไฟฟ้าสถิต หรือพลังงานที่สั่งสมอยู่นี้จึงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ บางครั้งผู้อื่นมาสัมผัสที่กายเรา ก็จะมีไฟฟ้าสถิตช็อต ไหลผ่านไปที่คนที่มาสัมผัสเรา
      พลังงานที่สั่งสมในร่างกายนี้ เมื่อร่างกายเรามีปัญหาการไหลเวียนของธาตุลม ลมไม่สามารถไหลเวียนออกที่รูขุมขนได้ ในสภาวะนั้น พลังงานที่สั่งสมอยู่ ก็ไม่สามารถเคลื่อนออกนอกร่างกายเราด้วย จึงทำให้เรามีความรู้สึกว่าร้อนอยู่ภายในกาย แต่ความร้อนที่เรารู้สึกนี้ ( ธาตุไฟ ) เมื่อเราใช้ปรอทวัดไข้ จะไม่สามารถวัดอุณหภูมิที่สูงขึ้นนี้ได้ ผลลัพท์คือเราไม่มีไข้
     แล้วเมื่อใดที่เราสามารถปรับสมดุลการไหลเวียนของธาตุลม ให้เคลื่อนไหลออกนอกร่างกายเราได้ ทำให้ลมเคลื่อนออกที่ข้อกระดูก เคลื่อนออกที่รูขุมขนบริเวณแนวเส้น  ทำให้ลมเคลื่อนออกที่รูขุมขนทั่วร่างกาย อาการตัวร้อนแต่ไม่มีไข้ ( ไฟฟ้าสถิต ) ก็จะคลายตัวลงไป ความร้อนที่เราสัมผัสได้นั้นก็จะค่อยๆหายไป ในขณะที่กดนวดเลย

เรอ ผายลม เพื่ออะไร
                                         
                       18 กรกฎาคม 2562