วันพุธที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2562

ปรับสมดุลธาตุทั้งสี่

นวดไล่ลม-คลายพลังงาน
ปรับสมดุลธาตุทั้งสี่

       ร่างกายเราประกอบด้วยธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ เมื่อใดที่ธาตุใดธาตุหนึ่งเกิดความไม่สมดุล จะมีผลข้างเคียงไปกระทบให้ธาตุอื่นๆเกิดความไม่สมดุลตามไปได้
        เช่นถ้าหากกล้ามเนื้อ ( ธาตุดิน ) มีอาการแข็ง ตึง กล้ามเนื้อแน่นเป็นมัดๆ หรือตะคริวขึ้นที่กลางปลีน่อง เส้นเลือดซึ่งก็เป็นธาตุดิน ก็จะโดนกล้ามเนื้อที่แข็งนั้นกดทับ ทำให้ความยืดหยุ่นของเส้นเลือดเสียสภาพไปชั่วคราว เมื่อความยืดหยุ่นของเส้นเลือดเสียสภาพไป การไหลเวียนของเลือด (ธาตุน้ำ) การไหลเวียนของลม (ธาตุลม)ในแนวเส้น ก็จะเสียสภาพไปเช่นกัน
        เลือดแดง (ออกซิเจน) ที่ได้รับการฟอกที่ปอด หัวใจก็จะสูบฉีดไปทั่วร่างกาย เมื่อความยืดหยุ่นของเส้นเลือดเสียสภาพไปชั่วคราว เลือดแดงจะเคลื่อนไหลไปปลายแขน ปลายขา ศรีษะ ได้น้อยกว่าปกติ ก็จะทำให้เกิดอาการชาที่ปลายมือ ปลายเท้า และเลือดไหลขึ้นไปเลี้ยงศรีษะไม่พอ
       เมื่อความยืดหยุ่นของเส้นเลือดดำเสียสภาพไปชั่วคราว เส้นเลือดดำก็จะนำของเสียในเซลล์ (ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์) กลับไปฟอกที่ปอดได้น้อยกว่าปกติ
        เมื่อเลือดแดงไหลเวียนไปปลายมือ-ปลายเท้า-ศรีษะ ได้ไม่เต็มที่ การขับของเสียในร่างกายก็จะไม่สมบูรณ์ การแลกเปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์ (เลือดดำ) และออกซิเจน (เลือดแดง) ที่ปอด ก็จะมีคาร์บอนไดออกไซด์มาแลกเปลี่ยนกับออกซิเจนน้อยกว่าสภาวะปกติ ทำให้เลือดมีสภาวะความเป็นกรดสูงกว่าปกติ หินปูน กรดยูริก เลือดมีความเป็นกรดก็คือคำตอบ

      เมื่อรูขุมขนต่างๆในร่างกายเกิดอุดตัน ธาตุลมที่จะต้องไหลเวียนเข้าและออกนอกกาย ตามรูขุมขน ลมไม่สามารถเคลื่อนออกได้ ลมจึงค้างคาอยู่ที่แนวเส้น  ค้างคาอยู่ในช่องท้อง ในกระโหลกศรีษะ เมื่อลมไม่สามารถไหลออกนอกร่างกายได้ พลังงานที่สั่งสมอยู่ภายในร่างกายก็ไม่สามารถไหลออกไปด้วยเช่นกัน พลังงานเมื่อสั่งสมอยู่นานวัน เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ก็จะกดทับกล้ามเนื้อ กดทับอวัยวะต่างๆ กดทับอวัยวะทุกอย่างที่อยู่ในช่องท้อง
       ธาตุลม และพลังงานที่สั่งสมอยู่ภายในร่างกาย เมื่อสั่งสมในช่องท้องทำให้เกิดอาการลมแน่นท้อง ท้องอืด กรดไหลย้อน หายใจเหนื่อย ปัสสาวะบ่อยครั้งแต่กะปริบกะปรอย หายใจไม่ทั่วท้อง
       เราหายใจออกเพื่อขับคาร์บอนไดออกไซด์ให้ออกนอกร่างกาย แล้วหายใจเข้าเพื่อนำออกซิเจนเข้ามาในปอด
       ขณะที่เราหายใจออกปอดจะแฟบ ขนาดของปอดเล็กลง เมื่อปอดโดนลมและพลังงานที่สั่งสมอยู่ในช่องท้อง ห้อมล้อม จะกดทับ บีบ ทำให้ปอดพองขยายขึ้นมาเป็นปกติไม่ได้ การหายใจเข้าเอาออกซิเจนเข้ามาในปอดจะมีออกซิเจนเข้ามาในร่างกายน้อยกว่าปกติ ทำให้สมดุลการแลกเปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์ และออกซิเจนเสียไป
        เมื่อการหายใจไม่ปกติ การทำงานของปอดไม่ปกติ สมดุลการแลกเปลี่ยนกาซของเลือดดำและเลือดแดงเสียไป ทำให้เลือดมีความเป็นกรด อาการที่เกี่ยวกับ หินปูน กรดยูริก ฯลฯ ก็จะเกิดขึ้น
       เมื่อเราปรับสมดุลให้การการไหลเวียนเลือดและลม ให้กลับมาปกติ หายใจเอาออกซิเจนเข้ามาได้เต็มปอด เมื่อเลือดมีความเป็นกรดลดลง อาการป่วยที่เกิดขึ้นก็จะทุเลาและค่อยๆหายไปในที่สุด
                   
             20 มิถุนายน 2562

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น