วันพฤหัสบดีที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ทำไมต้องขอขมาเจ้ากรรมนายเวร

ทำไมต้องขอขมาเจ้ากรรมนายเวร
    ถ้าจะบอกว่าการป่วยไข้ของคนเรานั้น มาจากเจ้ากรรมนายเวร ถ้าเจ้ากรรมนายเวรเขายังไม่อโหสิกรรมให้เรา ต่อให้มีโอกาสได้รับการรักษากับหมอหรือการรักษาโดยทางเลือกใดๆ การป่วยไข้นั้นก็มิอาจได้รับการบำบัดให้หายได้ ยิ่งรักษาก็จะยิ่งหนักขึ้น ค่าใช้จ่ายก็แพง
    แต่ถ้าหากเจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรมให้ การรักษาที่เรื้อรังของเรา อาการก็จะค่อยๆดีขึ้นเรื่อยๆ จนหายเป็นปกติ
     ที่เกริ่นเรื่องการขอขมา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และเจ้ากรรมนายเวรที่เราเคยเบียดเบียนเขามาในอดีต เพราะการนวดแก้อาการก็คือการนวดเพื่อทำให้อาการเจ็บปวดของร่างกายหายไป และการที่ความเจ็บปวดหายไปก็คือการที่เจ้ากรรมนายเวรเขาอโหสิกรรมให้เรา ไม่เบียดเบียนเราอีก เมื่อบำบัดแล้วการเจ็บปวดก็จะหายไปเอง
      การนวดเส้นก็คือการนวดเส้นที่มีเลือดและลมแล่นอยู่ ถ้าลมไม่ไหลเวียนในกาย ลมขัดตรงไหนก็ไปกดทับกล้ามเนื้อ อวัยวะบริเวณนั้น ทำให้เจ็บปวด ดังนั้นถ้าลมไหลเวียนดี ลมไม่ขัดบริเวณอวัยวะและกล้ามเนื้อ ความดันของลมที่ไปกดทับมีน้อยลง อาการปวดก็จะทุเลา และหายไปเอง
      ในส่วนของการนวดไล่ลมนี้ เมื่อนวดแล้ว ถ้าลมในกายไหลเวียนดี คือไหลออกตามข้อกระดูกต่างๆ เริ่มจากขาเป็นรยางค์แรก
      แล้วลมจะเริ่มวิ่งร้อนออกปลายนิ้วเท้า ต่อจากนั้นจะเริ่มร้อนขึ้นไปบนลำตัว ร้อนผ่านบ่า-ไหล่ ลมจะวิ่งร้อนออกมือไปออกปลายนิ้วมือ เป็นระยางที่สอง
       และลมจะเริ่มร้อนวิ่งผ่านต้นคอ ศีรษะ  วิ่งร้อนไปออกที่กระหม่อมเป็นระยางที่สามเป็นจุดสุดท้ายของร่างกาย
       เมื่อใดที่ลมร้อนวิ่งผ่านออกนอกร่างกายตามข้อกระดูก ตามปลายระยางต่างๆ อาการปวดของเราก็จะเบาและหายไปเอง
         ที่เกริ่นว่า ทำไมต้องขอขมาเจ้ากรรมนายเวร เพราะมีกรณีหนึ่งที่คนไข้ คนเดียวกัน คนนวดก็คนเดียวกันคือผม วิธีนวดก็วิธีเดียวกันคือนวดไล่ลม การนวดทั้ง2ครั้งนั้นมีระยะเวลาห่างกันประมาณ 1ปี สิ่งที่ต่างกันคือการยอมให้มีการรักษาของเจ้ากรรมนายเวร
          คนไข้มีอาชีพดูแลผู้ป่วยสูงอายุ มีอาการปวดเมื่อยจากการทำงาน ในครั้งแรกที่นวด คนไข้บอกหลังจากนวด ( มารู้หลังจากที่นวดครั้งที่2แล้ว) ปวดทั้งเวลาที่นวดโดนกายโดนเส้น และยังปวดต่อเนื่องไปอีกหลังจากไม่ได้แตะที่กาย จนการนวดครั้งนั้นเสร็จ คนไข้บอกว่าระบมไปประมาณ 2-3 สัปดาห์ คนไข้จึงไม่กล้าที่จะนวดกับผมอีกเลยตั้งนั้นมา
          จนกระทั่งเวลาผ่านมาประมาณ1ปี  ก็มีโอกาสได้นวดคนไข้รายเดิมนี้อีกครั้ง แต่การนวดครั้งนี้ต่างกับครั้งก่อนโดยสิ้นเชิง คือปวดเวลาที่นวดโดนกายโดนเส้น ลมก็วิ่งร้อนออกปลายเท้า เวลาที่ไม่ได้แตะที่กายที่เส้นอาการปวดก็หายไป เบาสบายอย่างที่ไม่เคยเป็น  จนการนวดครั้งนั้นเสร็จ คนไข้บอกว่าไม่มีอาการระบมอีก
           สิ่งที่ต่างกันคือครั้งหลัง นวดแล้วลมวิ่งร้อนออกปลายเท้า คนไข้ตัวเบาสบาย ไม่มีการระบม
                แล้วลมพาอะไรออกไป


    

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น