วันพฤหัสบดีที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

พลังงานเกี่ยวข้องอะไรกับลมในร่างกาย

นวดไล่ลม-คลายพลังงาน
พลังงานเกี่ยวข้องอะไรกับลมในร่างกาย

          สงสัยไหมว่าเวลาผมพูดถึงนวดไล่ลม ผมจะมีคำต่อท้ายว่า “ คลายพลังงาน ” แล้วทำไมจึงต้องเป็น “ นวดไล่ลม-คลายพลังงาน ”
           จากการสอนการทำกรรมฐานขององค์หลวงปู่เจือ สุภโร หลวงปู่ท่านสอนให้ทำสมาธิโดยให้ทำกสิณสีขาว ให้นึกเห็นท้องฟ้า เมื่อปฏิบัติต่อเนื่องไป กำลังสมาธิมีกำลังมากขึ้น ( ฌานมีกำลังสูงขึ้น ) ปฏิบัติต่อเนื่องไป ให้นึกเห็นท้องฟ้า แผ่นน้ำ แผ่นดิน กาย ลม ได้ในเวลาเดียวกัน ก็จะทำให้สมาธิ และฌานมีกำลังมากขึ้น แล้วเราจะรู้การเคลื่อนไหลของลมในร่างกายเรา เป็นลมหกกอง หนึ่งในนั้นคือลมหายใจ
         “ หายใจเข้ารูจมูก ลมออกทั่วกาย ออกทุกรูขุมขนทั่วกาย “
         “ หายใจออกรูจมูก ลมเข้าทั่วกาย เข้าทุกรูขุมขนทั่วกาย “ 
     ดังนั้นร่างกายเรา ผิวกายเรา ในสภาวะปกติลมสามารถวิ่งเข้า – แล่นออกตามรูขุมขนทั่วร่างกายได้ ( เหมือนผึ้งที่บินเข้าบินออกที่รังผึ้ง )       
      เมื่อลมเข้ามาในร่างกาย แล้วลมก็ไหลออกจากร่างกายไปได้ ทำให้ร่างกายคนเราไม่บวม ไม่พองโตขึ้นมาจนเกินปกติ
            แต่เมื่อใดที่ผิวกายเรา ลมไม่สามารถไหลออกตามรูขุมขนได้ จะเนื่องด้วยสาเหตุใดๆก็ตาม สภาพของร่างกายเราก็จะเหมือนลูกโป่ง เป็นลูกโป่งที่เป่าให้โตขึ้นเรื่อยๆ  โตขึ้นจนผิวหนัง ผิวร่างกายเราบวม เปล่ง ผิวกายเราจะมันขึ้น ( บริเวณหน้าแข้ง )
            ถ้าหากผิวกายเราเปราะบางเหมือนผิวลูกโป่ง ผิวหนังของเราก็คงปริ แตก ระเบิดไปแล้ว เมื่อผิวกายเราไม่แตก ไม่ระเบิด ลมที่ไหลเข้ามาในร่างกายก็จะยังไม่สามารถไหลออกที่รูขุมขนได้  ซึ่งเราเรียกว่าเป็นอาการขัดของลมนั่นเอง
              สำหรับเรื่องพลังงานที่ซึมซับเข้ามา และสั่งสมอยู่ในร่างกายเรานั้น เป็นพลังงานที่เข้ามาในร่างกายเราจากการใช้ชีวิตประจำวัน ทุกๆอิริยาบทของร่างกายเรา จะมีพลังงานซึมซับเข้ามาในร่างกายเรา โดยธาตุลมในร่างกายเรา ซึ่งเป็นพลังงานเดิมๆที่มีอยู่แล้วในร่างกาย ลมในกายจะเคลื่อนไหลไปตามแนวเส้น ( การนวดเส้น คือการนวดเส้นที่มีเลือดและลมแล่นอยู่ ) ดังนั้นลมจึงเคลื่อนไหลไปตามแนวเส้น ก็คือเส้นเลือดนั่นเอง
              ร่างกายเรา เส้นเลือดแดง เส้นเลือดดำ เส้นเลือดใหญ่ เส้นเลือดฝอย ก็คือแนวเส้น คือแนวที่ลมจะเคลื่อนไหลไปตลอดทั่วร่างกาย เคลื่อนไปตามแนวเส้น เส้นเลือด ลมวิ่งไปตามแนวเส้นที่ฝังอยู่ในกล้ามเนื้อ อยู่ใต้ผิวหนัง ใต้รูขุมขน ลมสามารถเคลื่อนไหลตามแนวเส้นผ่านกระดูกท่อนหนึ่งไปยังกระดูกอีกท่อนหนึ่ง ลมเคลื่อนไหลออกนอกร่างกายตามทวารต่างๆ ตา หู คอ จมูก ปาก ทวารหนัก ทวารเบา และลมเคลื่อนไหลออกตามรูขุมขนทั่วร่างกาย
        เรากดนวดไล่ลมที่ขาท่อนบน เมื่อเราผ่อน คลายแรงที่กดนวดไล่ลม ลมในกายจะค่อยๆเคลื่อนไหลไปตามแนวเส้น  แล่นไป ผ่านข้อกระดูกหัวเข่า
       ค่อยๆเคลื่อนไปตามแนวเส้นกระดูกขาท่อนล่าง  แล่นไป ผ่านข้อกระดูกตาตุ่ม
       ค่อยๆเคลื่อนไปตามแนวเส้นกระดูกเท้า  แล่นไป  ผ่านข้อกระดูกนิ้ว แล้วลมวิ่งออกปลายเท้า
       เมื่อเรากดนวดไล่ลมไปเรื่อยๆ ลมก็จะค่อยๆเคลื่อนไหลไปออกที่ปลายเท้า ค่อยๆเคลื่อนไปด้านบนร่างกาย ไปออกที่แขน
      และในที่สุดลมก็จะค่อยๆเคลื่อนไหลออกปลายเท้า ปลายมือ และลมจะเคลื่อนออกที่ศรีษะ โดยพร้อมเพรียงกัน ในเวลาเดียวกัน
       เมื่อเรากดนวดไล่ลมจนลมเคลื่อนไหลออกที่ศรีษะแล้ว แนวเส้น ทั้งซีกของร่างกายที่เรากดนวด การกระทุ้งการไหลเวียนของลมในแนวเส้นจะสมบูรณ์ กลับมาปกติ รูขุมขนที่อุดตันก็จะคลายออก ลมก็จะสามารถไหลเวียนออกนอกร่างกายตามรูขุมขนได้ตามปกติ
        สำหรับพลังงานที่ซึมซับเข้ามา แล้วเก็บสั่งสมอยู่ในแนวเส้นทั่วร่างกาย เก็บสั่งสมอยู่ในช่องท้อง อยู่ในกระโหลกศรีษะ พลังงานพวกนี้ทำให้ร่างกายเราเกิดอาการร้อนแต่ไม่มีไข้ เมื่อเรากดนวดทำให้ลมในเส้นเคลื่อนไหล ออกนอกร่างกายตามรูขุมขนทั่วร่างกายได้ จะเกิดการแพร่ของลม เป็นการไหลของลมตามแนวเส้น จากที่ๆยังมีความหนาแน่นของลมที่สูงกว่า เคลื่อนไหลไปตามแนวเส้นที่มีความหนาแน่นของลมต่ำกว่า   
        คือลมที่อยู่ในแนวเส้น ส่วนบนของร่างกายก็จะมีการไหลลงมาแทนที่บริเวณขาท่อนที่ถูกกดนวด และจะถูกดึงให้ไหลลงปลายเท้า แล้วออกนอกร่างกายไป
      เมื่อลมเคลื่อนออกที่รูขุมขนได้ ลมคือพลังงานที่มีอยู่แล้วในร่างกาย ก็จะนำพาพลังงานต่างๆที่เคยเข้ามาและสั่งสมเก็บไว้ เช่น
      อาการเริ่มจากด้านล่างขึ้นไปด้านบนลำตัว พลังงานจะเข้ามาทางฝ่าเท้า เช่นการเดิน การยืน การกระโดด การนั่งนานๆ ล้มก้นกระแทก ล้มหลังฟาดพื้น ฯลฯ ( นวดแก้โดยท่านอนคว่ำ )
      อาการเริ่มจากด้านล่างขึ้นไปด้านบนลำตัว พลังงานเข้ามาทางหลังเท้าและตาตุ่ม เช่น อาการขาพลิก ขาแพลง ตึงหน้าแข้ง เข่ามีเสียง เมื่อยหน้าขา เส้นท้องตึง ฯลฯ  ( นวดแก้โดยท่านอนหงาย )
      อาการเริ่มจากด้านบนเคลื่อนลงมาด้านล่างลำตัว พลังงานเข้ามาทางศรีษะ บ่า ไหล่ แขน มือ อาการทุกอย่างที่เริ่มมาจากด้านบนคอบ่าไหล่ จะเคลื่อนลงมาที่สะบัก แนวหลังใต้แนวสะบัก แนวตัดขวางเข้าเอว แนวกระเบนเหน็บ แนวข้างขาด้านใน แนวหน้าแข้งด้านใน แนวตาตุ่มด้านใน แนวร่องเส้นใต้ฝ่าเท้าบริเวณนิ้วโป้ง-นิ้วชี้ ทำให้เกิดอาการหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทแขน-ขา ( นวดแก้โดยท่านอนตะแคง )
     อาการที่เริ่มจากมือ แขน บ่า เช่น ล้มแขนยันฟื้น แขนกระชาก ( นวดแก้โดยท่านอนหงาย-นวดแขน )
    อาการที่เริ่มจากศรีษะ ( นวดแก้โดยท่านั่ง นวดคอบ่าไหล่ )
           เมื่อเรากดนวดไล่ลม ให้ลมไหลเวียนออกนอกกายได้ ลมจะดึงพลังงานเหล่านี้ออกไปด้วย อาการเรื้อรังต่างๆก็จะค่อยๆคลายออกไป แต่สิ่งที่เห็นและสัมผัสได้แน่ๆคือ พลังงานที่สั่งสมมาค่อยๆลดลงไป อาการตัวร้อนรุมๆแต่ไม่มีไข้ ก็จะคลายแล้วหายในขณะนั้นเลย       
                                                       
                02 พฤษภาคม 2562

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น