อาการเกี่ยวกับแขน มือ นิ้ว ( ตอน 8.2 )
การบำบัดอาการคอ-บ่า-ไหล่ แขน มือ นิ้วมือ กับการนวดไล่ลม
ในเรื่องของการนวดไล่ลม ทุกๆอิริยาบท หรือทุกๆอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับร่างกายส่วนบนของเรา พลังงานนั้นๆสะเทือนเข้ามาในกายเรา ไม่ว่าจะเข้ามาทางศีรษะ บ่า ไหล่ แขน มือ หรือนิ้วมือ พลังงานที่เข้ามานี้ จะเคลื่อนไหลไปตามแนวเส้น จนถึงเส้นข้างขาด้านใน
ถ้าเข้ามาทางศีรษะ พลังงานจะเคลื่อนลงมาที่ต้นคอ บ่า แนวร่องสะบักกับแนวกระดูกสันหลัง สะบัก แนวหลังใต้แนวสะบัก แนวเอวตัดขวางเข้ากระดูกสันหลังเอวข้อที่3-4-5 วิ่งผ่านเชิงกราน เข้าแนวเส้นข้างขาด้านใน พลังงานสั่งสมลงมาจนถึงเส้นหน้าแข้งด้านใน แนวตาตุ่มใน สุดท้ายไปที่แนวฝ่าเท้าแนวร่องนิ้วโป้งและนิ้วชี้
พลังงานเข้ามาทางนิ้วมือ อุ้งมือ ข้อมือ ข้อศอก ไหล่ พลังงานจะเคลื่อนเข้ามารวมกันที่บ่า ที่ต้นคอ แนวร่องสะบักกับแนวกระดูกสันหลัง สะบัก แนวหลังใต้แนวสะบัก แนวเอวตัดขวางเข้ากระดูกสันหลังเอวข้อที่3-4-5 วิ่งผ่านเชิงกราน เข้าแนวเส้นข้างขาด้านใน พลังงานสั่งสมลงมาจนถึงเส้นหน้าแข้งด้านใน แนวตาตุ่มใน สุดท้ายไปที่แนวฝ่าเท้าแนวร่องนิ้วโป้งและนิ้วชี้
จะเห็นได้ว่า ไม่ว่าพลังงานจะมาทางศีรษะ หรือพลังงานจะเข้ามาทางมือ แขน ไหล่ แนวเส้นร่วมกันที่พลังงานจะเคลื่อนลงมาที่ด้านล่างคือ เริ่มตั้งแต่ผ่านมาที่สะบัก แล้วจะเคลื่อนลงไปแนวหลังใต้แนวสะบัก แนวเอวตัดขวางเข้ากระดูกสันหลังเอวข้อที่3-4-5 วิ่งผ่านเชิงกราน เข้าแนวเส้นข้างขาด้านใน พลังงานสั่งสมลงมาจนถึงเส้นหน้าแข้งด้านใน แนวตาตุ่มใน สุดท้ายไปที่แนวฝ่าเท้าแนวร่องนิ้วโป้งและนิ้วชี้
อย่างเช่นเมื่อเราโดนนวด กดน้ำหนักลงบนบ่า บ่าเราเบาขึ้น แต่หลังเอวเราจะรู้สึกตึง ขัดขึ้นมาทันที ผ่านไป 1-2 วัน พลังงานก็จะเคลื่อนกลับไปที่แนวบ่าดังเดิม อาการคอบ่าไหล่ ก็จะย้อนกลับมาเป็นอีก
การนวดไล่ลม โดยการกดขาท่านอนตะแคง ( แนวเส้นข้างขาด้านใน ) เมื่อลมในแนวเส้นที่ขาโล่ง จะทำให้ลมที่หลัง ที่เอว ที่แขน และลมในศีรษะ ที่ยังมีความหนาแน่นมากกว่า จะเกิดการแพร่ของลมในแนวเส้น ให้ไหล ตามลมร้อนที่วิ่งออกปลายเท้า พลังงานที่สั่งสมเข้ามาและยังอยู่ส่วนบนของลำตัว จะค่อยๆคลาย ไหลออกไปกับลมที่เคลื่อนด้วย
ในกรณีเดียวกันเมื่อเรานวดไล่ลม โดยการกดขาแนวนอนตะแคง ( แนวเส้นข้างขาด้านใน ) เมื่อลมในแนวเส้นที่ขาโล่ง จะทำให้ลมหรือพลังงานที่เคลื่อนหนีลงมา ที่หลังเอว ไหลตามลงมาออกตามรูขุมขนที่เปิด ออกที่หัวเข่า ตาตุ่ม ปลายเท้า พลังงานที่เคลื่อนออกนอกกายไปได้ แล้วก็จะไม่ไหลย้อนกลับขึ้นไปที่บ่าอีก
เพียงแค่การทำให้ลมหรือพลังงานที่แน่นอยู่ด้านบนของลำตัว ให้ลมนั้นแพร่ ไหลลงมาที่แนวเส้นขา อาการขัดของลมก็จะได้รับการแก้ไข ได้ในระดับหนึ่ง เปรียบเหมือนลูกโปร่งที่เป่าโตเต็มใบ มีความตึง ความดันลม 100% บีบแล้วแข็ง ต้านมือ บีบแรงๆก็แตกได้
แต่เมื่อปล่อยลมในลูกโปร่งให้ไหลออกมาให้เหลือครึ่งใบ ความดันลมก็จะลดลงมาเหลือ 50% ลูกโปร่งก็จะนิ่มลง ไม่ต้านมือ
เมื่อเรากด นวดไล่ลม ให้ลมไหลร้อนออกปลายเท้าไปแล้ว การกดนวดต่อไปก็จะเริ่มกระทุ้งแนวเส้น ย้อนศรกลับไปด้านบนลำตัวเริ่มจากแนวที่กดนวด ลมจะเริ่มกระทุ้งขึ้นขึ้น กระทุ้งผ่านเชิงกราน กระทุ้งไปที่แนวเอว กระทุ้งออกจากเอวบริเวณกระดูกสันหลังเอวข้อที่3-4-5 ไปแนวตัดขวาง กระทุ้งขึ้นไปแนวหลังใต้แนวสะบัก กระทุ้งเข้าสะบัก กระทุ้งไปออกแขนท่อนบน ( ข้อศอก ) กระทุ้งไปออกแขนท่อนล่าง ( ข้อมือ ) กระทุ้งไปออกมือ ( ข้อกระดูกมือ ) กระทุ้งไปออกนิ้ว ( ข้อนิ้วมือ ) ในเวลานั้นลมหรือพลังงานจะวิ่งร้อนออกปลายมือ และปลายเท้าพร้อมกัน
เมื่อเรากดนวดไล่ลมให้ไหลร้อนออกปลายมือ ปลายเท้าไปแล้ว การกดนวดต่อไปก็จะเริ่มกระทุ้งแนวเส้น ไปด้านบนต้นคอ ศีรษะ ( ลมร้อนออกตามกระดูกคอ ) กระทุ้งไปออกจุดสุดท้ายที่กระหม่อมบนศีรษะ ( ลมไปออกที่ตา หู คอ จมูก ปาก )
การที่ลมหรือพลังงานวิ่งร้อนออกปลายมือ และปลายเท้า และศีรษะพร้อมกัน นั่นหมายถึง ในขณะเวลานั้นการนวดไล่ลมในแนวเส้นตะแคง ของซีกร่างกายข้างที่เราบำบัด เราสามารถบำบัดทำให้ลม หรือพลังงานที่สะเทือนเข้ามาตามแนวเส้นนี้ ทำให้พลังงานที่อยู่ใต้ผิวหนัง ชั้นบนสุด เคลื่อนออกนอกกายเราได้เป็นปกติ พร้อมลมที่วิ่งร้อนออก ไปตามข้อกระดูก ไปตามรูขุมขน ที่รากระทุ้งรูขุมขนจนเปิดจนโล่งแล้ว
การบำบัดอาการที่เกี่ยวกับลม พลังงานสะสม เคลื่อนจากด้านบนไหลลงไปด้านล่าง การกดขาแนวนอนตะแคง ( แนวเส้นข้างขาด้านใน ) เป็นการแก้อาการที่ขัดมาจากด้านบนของร่างกายคืออาการคอ บ่า ไหล่ แขน มือ จะเริ่มบำบัดที่แนวขาก่อน ถ้าขาลมร้อนออกปลายเท้าแล้ว ก็จะกระทุ้ง แนวหลังเอว บ่า แขน มือให้รูขุมขนเปิดตลอดแนว และถ้าแนวหลังเอว บ่า แขน มือ ไล่จนลมวิ่งร้อนออกปลายมือแล้ว สุดท้ายก็จะกระทุ้งที่แนวคอ และศีรษะ จนลมวิ่งร้อนออกบนศีรษะ
จึงเป็นที่มาว่าทำไมเราต้องเน้นกดนวดไล่ลมที่ขาก่อน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น