วันจันทร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2561

ความยากง่ายในการนวดบำบัด

ความยากง่ายในการนวดบำบัด

        มีคำถามคำถามหนึ่ง ที่มักจะโดนถามว่า “ จะต้องนวดซักกี่ครั้ง ถึงจะหายจากอาการเจ็บป่วยนี้ “ 
        คำตอบของคำถามนี้ บางครั้งก็ตอบได้ง่ายๆ ด้วยการลองกดนวดไล่ลมที่ขาท่อนบน โดยสลับกันกดนวด ขาทั้ง2ข้าง
    เวลาเรากดนวดไล่ลม ขาซ้าย บริเวณขาท่อนบน ในท่านอนคว่ำ เรากดนวดนานประมาณ 20นาที ลมที่ร้อน หรือพลังงานที่จะต้องเคลื่อนลงไปที่ปลายเท้า ยังเคลื่อนผ่านลงไปได้ไม่เกินหัวเข่า
    แล้วทำไมเวลาเรากดนวดไล่ลม ขาขวา บริเวณขาท่อนบน ในท่านอนคว่ำ เรากดนวดนานประมาณ 1-2 นาที ลมที่ร้อนหรือพลังงานที่จะต้องเคลื่อนลงไปที่ปลายเท้า สามารถเคลื่อนผ่านลงไป วิ่งผ่านสะบ้าหัวเข่า วิ่งผ่านไปส้นเท้า และบางรายพลังงานวิ่งทะลุผ่านออกปลายนิ้วเท้าได้เลย

      การที่เรากดนวดผู้ป่วยรายเดียว  บำบัดนวดที่ขาทั้ง2ข้าง  คนโดนนวดคนเดียวกัน คนที่เป็นผู้นวดก็คนๆเดียวกัน วิธีการนวดก็ไม่ต่างกัน แต่ทำไมผลลัพท์ที่ได้ออกมา ไม่เหมือนกัน
      เมื่อสอบถามอาการเบื้องต้นกับผู้ป่วย  จึงทำให้ทราบว่า ขาข้างแรกที่พลังงานเคลื่อนลงไปไม่ผ่านหัวเข่า ปกติข้างนี้จะมีอาการ ขาตึง ชาที่ฝ่าเท้า ตะคิวขึ้นที่น่อง มีอาการปวดเมื่อยแนวหลังติดกระดูกสันหลัง
  และขาข้างนี้เคยมีปัญหาที่เกิดขึ้นจากการกระโดดลงมาจากต้นไม้ ในวัยเด็ก เคยตึงปวดไปถึงแนวกระดูกสันหลัง และทุกวันนี้ยังมีอาการเจ็บเสียดอยู่ที่แนวกระดูกสันหลัง
  ส่วนขาข้างที่2 มีแค่อาการเมื่อยล้า ธรรมดาๆ เท่านั้น
     พลังงานที่สะท้อนเข้ามาในกายเรา ผ่านทางฝ่าเท้า ส้นเท้า น่อง ขาท่อนบน ก้นกบ กระเบนเหน็บ แนวกระดูกสันหลัง จะเคลื่อนไปจนที่สุดคือผ่านต้นคอ แล้ววิ่งไปทะลุออกที่กลางกระหม่อม
     เมื่อเกิดอุบัติเหตุ กระโดดลงมาจากที่สูง ขาข้างแรกเป็นข้างที่รับน้ำหนักก่อน พลังงานที่กระเทือนเข้ามาที่ขาข้างแรก ไปสุดที่แนวกระดูกสันหลัง จึงทำให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นบาดเจ็บ พลังงานเคลื่อนออกไปไม่ได้ ค้างคาอยู่ ตั้งแต่วันที่กระโดดจนถึงปัจจุบัน พลังงานก็ยังออกไปไม่ได้
    การปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ร่างกายก็จะมีการสร้างพังผืดขึ้นมาปกป้องกล้ามเนื้อที่บาดเจ็บ และตลอดเวลาที่ผ่านมาพังผืดหนาขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้การกดนวดลงไปบนแนวเส้น ไม่ค่อยได้ผล ลมหรือพลังงานจึงเคลื่อนลงไปไม่ผ่านสะบ้าหัวเข่า ทำให้เรารับรู้ว่าการบำบัดข้างนี้ อาการขาข้างแรก ยังไม่เบาโล่ง

     ส่วนขาข้างที่2 การกดนวดเหมือนกัน แต่ผลที่ได้รับต่างกัน ก็เนื่องจาก ข้างนี้เป็นการใช้กล้ามเนื้อปกติ ธรรมดา เมื่อครั้งที่กระโดดลงมาจากต้นไม้ ขาข้างแรกเป็นข้างที่แตะพื้นก่อน พลังงานส่วนมากเข้าไปที่ขาท่อนแรก อาการบาดเจ็บเรื้อรังขาข้างนี้น้อยกว่า ในการกดนวดไล่ลม จึงสามารถกระทุ้งแนวเส้นที่ขัดอยู่ ทำให้ลมหรือพลังงานไหลเวียนออกนอกกาย ที่ข้อเข่า ข้อตาตุ่ม ออกที่ข้อนิ้วเท้า ได้เร็ว การบำบัดอาการจึงให้ผลดี และเร็ว

      นี่แหละครับ คนๆเดียวกัน บำบัดด้วยวิธีเดียวกัน ผลที่ได้ต่างกัน ก็เนื่องจากต้นทุน อาการที่สั่งสมอยู่ภายใน ถ้าเป็นอาการที่เกิดจากการใช้งานอวัยวะอย่างปกติ การบำบัดจะรวดเร็ว และไม่เรื้อรัง แต่ถ้าเป็นอาการที่เกิดจากร่างกายเราเคยได้รับอุบัติเหตุ เคยซึมซับพลังงานเป็นจำนวนมาก ทำให้ร่างกายเรายังคงบาดเจ็บ และยังคงมีอาการเรื้อรังมาจนถึงปัจจุบัน การบำบัดจะให้ผลช้า ค่อยๆดีขึ้นทีละนิด จึงทำให้เรายังคงต้องมีการบำบัดอย่างต่อเนื่อง จนกว่าการไหลเวียนของลมในแนวเส้นของขาทั้ง2ข้างจะเสมอกัน ร่างกายเราก็จะฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติได้ในที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น