วันศุกร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2561

ลมกับพลังงาน ( 9.3 )

ลมกับพลังงาน  ( 9.3 )
เคี้ยวอาหารไม่ได้

         ลมและพลังงาน เมื่อสั่งสมอยู่ณ.ที่ใดในร่างกายคนเรา ตามอวัยวะต่าง ย่อมส่งผลกระทบต่อการทำงานของอวัยวะนั้นๆ
          พี่สาวของผม เมื่อหลายวันก่อนมีอาการเคี้ยวอาหารไม่ได้ มีอาการที่กระบอกตา ตึงเกร็ง อาการนี้เพิ่งเกิดขึ้นใหม่ หลังจากที่เมื่อก่อนก็เคยมีอาการกลืนอาหารไม่ได้ กลืนน้ำลายไม่ลง หายใจลำบาก
         อาการที่เกิดขึ้นนี้ หลังจากที่กดนวดไล่ลมแล้ว ในท่านอนคว่ำ กดที่ต้นขาด้านหลัง บริเวณก้นย้อย และท่านอนตะแคง กดที่ต้นขา เส้นข้างขาด้านใน คือให้ลมไหลร้อนออกข้อกระดูกเข่า ข้อกระดูกเท้า จนลมร้อนวิ่งไหลออกปลายเท้า
        เมื่อกดนวดไล่ลมไประยะหนึ่ง ปรากฏว่า มีลมไหลออกที่ปาก

           แรงกดนวดไล่ลมที่ขาท่อนบน ก็จะเริ่มกระทุ้งดันขึ้นส่วนบนของร่างกาย ทำให้แนวกระเบนเหน็บ เอว แนวหลัง เบาลง
           แรงที่กดนวดไล่ลมที่ขาท่อนบน ยังคงทำให้ลมร้อนไหลออกปลายเท้า และค่อยกระทุ้งการไหลเวียนของลมและพลังงานบริเวณส่วนบนของร่างกาย ไปกระทุ้งลมและพลังงานที่ขัดอยู่บริเวณบ่า ศรีษะ ทำให้ลมที่คั่งค้างอยู่ในลำคอ กะโหลกศรีษะ ได้เคลื่อนไหลออกนอกร่างกายเราได้
           
           อาการหลายๆอาการเช่น ลมออกหู ขัดๆเคืองๆที่กระบอกตา อาการภูมิแพ้หายใจไม่สะดวก การกลืนอาหารไม่ลง กลืนน้ำลายไม่ลงคอ อาการเกร็งค้างที่กราม อาการปวดมึนศรีษะ
         อาการเหล่านี้ล้วนเกิดมาจากการที่ลมและพลังงานไหลเวียนออกนอกร่างกายไม่ได้ พลังงานจึงไปกดทับอวัยวะ ทำให้การทำงานอวัยวะด้อยลง ถ้าเราทำให้ลมเคลื่อนไหลออกนอกร่างกายได้ตามทวาร ออกที่ปาก ออกที่ทวารหนัก ออกที่ทวารเบา ( ช่องคลอด ) ออกที่ตา ออกที่หู ออกตามข้อกระดูก และทำให้ลมเคลื่อนไหลออกตามรูขุมขนทั่วร่างกายได้ พลังงานที่เคยสั่งสมอยู่ ก็จะไหลตามออกไปด้วย อาการเรื้อรังต่างๆก็จะคลาย แล้วหายไป ในที่สุด
         หลังจากที่กดนวดให้พี่สาวไปแล้ว มีลมไหลออกที่ปาก อาการเคี้ยวอาหารไม่ได้มาหลายวันก็หายไป อาการกระบอกตาตึง เกร็ง เบาลงไปเล็กน้อย ถ้าเรากดนวดไล่ลมต่อเนื่องอีกระยะหนึ่ง อาการที่เบ้าตาก็จะคลายออกไปเอง 

                                   27 ตุลาคม 2561

1 ความคิดเห็น: