วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561

ลมกับพลังงาน ( ตอนที่ 9.7)

ลมกับพลังงาน ( ตอนที่ 9.7 )
ลมและพลังงานในร่างกาย

             ร่างกายของคนเราประกอบด้วยธาตุสี่ คือธาตุดิน-น้ำ-ลม-ไฟ ธาตุทั้งสี่นั้นอยู่ใต้ผิวหนัง กระจายอยู่ทุกๆอณูในร่างกาย
             การนวดเส้น คือการนวดเส้นที่มีเลือดและลมแล่นอยู่ ดังนั้นเมื่อเราทำการบำบัดอาการ ไม่เพียงแค่บำบัดทำให้เลือดไหลเวียนไปได้ทั่วร่างกาย การนวดบำบัดนั้นๆจะต้องมีผลต่อการไหลเวียนของธาตุลมในร่างกาย คือลมสามารถเคลื่อน แล้วไหลออกนอกร่างกาย ตามทวารต่างๆ ตามข้อกระดูกต่างๆ และที่สุดคือไหลออกตามรูขุมขน ทุกๆรูขุมขนทั่วร่างกาย

              พลังงานจากภายนอก ที่กระทบเข้ามาในร่างกาย พลังงานที่เข้ามานี้จะเคลื่อนไหลไปกับลมที่แล่นในแนวเส้น เมื่อลมไม่สามารถเคลื่อนไหลออกนอกร่างกายได้ พลังงานที่เคยเข้ามา ก็จะไม่สามารถไหลออกนอกร่างกายเราได้ จึงเกิดการสั่งสมของพลังงานตามแนวเส้น ทั่วร่างกาย

              ร่างกายเราเหมือนลูกโป่ง แต่ผิวกายเราไม่เหมือนผิวลูกโป่ง เมื่อใดที่เราเป่าลมเข้าไปในลูกโป่ง จากลูกโป่งแบนแฟบ ก็จะค่อยๆโตขึ้น ค่อยๆแข็งขึ้น ถ้าเราเป่าลูกโป่งใบนั้นให้โตเต็มใบ ลมที่แน่นในลูกโป่ง จะทำให้ลูกโป่งใบนั้นมีความหนาแน่น หรือมีความดันสะสมภายในลูกโป่ง
        เป่าลมเข้าไปจนความดันพลังงานสูงสุดที่ผิวลูกโป่งจะรับได้  ถ้าเราลองบีบลูกโป่งใบนั้น ลุกโป่งจะแข็ง จะต้านมือ บีบแรงเกินไปลูกโป่งจะแตกได้
              ถ้าเราค่อยๆปล่อยลมในลูกโป่งใบนี้ ค่อยๆทำให้ลมในลูกโป่งไหลออก ลูกโป่งจะค่อยๆมีขนาดใบเล็กลง ส่งผลถึงความดันของลมในลูกโป่งก็จะค่อยๆปรับลดลงไปด้วย เมื่อเราบีบลูกโป่งที่แฟบลงมา ลูกโป่งจะนิ่มลง บีบแล้วไม่ต้านมือ

             ที่กล่าวว่าผิวกายเรานั้นเหมือนผิวลูกโป่ง เหมือนกันตรงที่ลมที่อยู่ด้านในร่างกายหรืออยู่ในลูกโป่ง มีมากไม่เกินความยืดหยุ่นของผิว
              ลูกโป่งถ้าเป่าให้โตเต็มใบ ความดันลมภายใน จะทำให้เรารู้สึกว่าลูกโป่งแข็ง ไม่มีความยืดหยุ่นหลงเหลืออยู่ ถ้าบีบแรงกว่านี้ ลูกโป่งจะแตกได้
              สำหรับผิวกายเรา ลมที่แล่นอยู่สามารถไหลเวียนออกนอกร่างกายได้ ตามรูขุมขน แต่ถ้าเมื่อใดร่างกายเรารูขุมขนปิด ลมในร่างกายไม่สามารถไหลเวียน แล่นทะลุออกนอกร่างกายตามรูขุมขนได้ ผิวกายเราก็จะมีสภาพคล้ายผิวลูกโป่ง คือลมเคลื่อนออกไม่ได้ พลังงานก็จะไหลออกนอกร่างกายไม่ได้ด้วย
            ลมที่ระบายไม่ออกก็จะเกิดการสั่งสมของพลังงาน ในแนวเส้น ในแนวกล้ามเนื้อ ในช่องท้อง ในกระโหลกศีรษะ  พลังงานที่กระทบเข้ามาในแต่ละครั้ง เมื่อไหลเวียนออกตามรูขุมขนไม่ได้ ก็จะสั่งสมอยู่ นานวันเข้าพลังงานเหล่านี้ เมื่อเก็บอยู่ในร่างกาย ก็จะทำให้เกิดแรงกด แรงดัน มากขึ้นเรื่อยๆ
        พลังงานนี้ไม่สามารถดันผิวกายเราให้แตกเหมือนลูกโป่ง เพราะผิวกายเรากล้ามเนื้อมีความยืดหยุ่นพอ ความกด ความดันของพลังงานนี้จึงไปกดทับกล้ามเนื้อ กดทับอวัยวะ กดทับไปตามแนวเส้น พลังงานไปสั่งสมอยู่ที่ช่องท้อง กระโหลกศีรษะ ทำให้เกิดแรงไปกดทับกล้ามเนื้อ อวัยวะในร่างกาย
        เมื่ออวัยวะ กล้ามเนื้อ ถูกลมและพลังงานกดทับ การทำงานของกล้ามเนื้อและอวัยวะนั้นลดประสิทธิภาพลง ดังนั้นถ้าเราสามารถทำให้ลมเคลื่อนไหลออกนอกร่างกายได้ พลังงานก็จะเคลื่อนไหลออกไปด้วย อาการกดทับกล้ามเนื้อ กดทับอวัยวะก็จะคลายตัวลงไปเอง

        ลูกโป่งรูปคน เป็นภาพที่ทำให้เราเห็นว่า ถ้าเราเป่าลมในลูกโป่งรูปคน ให้ลูกโป่งโต และแข็งขึ้น เป่าลมเข้าไปให้โตเต็มใบ เราจะไม่สามารถหักแขน หักขา หรือบิดลูกโป่งใบนี้ได้  ถ้าเรากด บีบลูกโป่งแรงๆ ลูกโป่งอาจจะแตกได้

       การที่คนเราจะขยับแขนขา ขยับท่อนกระดูก ขยับข้อกระดูกต่างๆ ถ้าอยู่ในสภาวะที่ร่างกายเรามีปัญหาเรื่องลมและพลังงานไม่ไหลเวียนออกนอกร่างกาย ความดันของพลังงาน จะไปกดทับกล้ามเนื้อและอวัยวะภายใน ทำให้การทำงานอวัยวะนั้นๆเสียสภาพลงชั่วคราว แนวเส้นที่เคยแฟบก็บวมพองขึ้นมา การเคลื่อนไหวแขนขา ของข้อกระดูกต่างๆก็จะเสียสภาพไปชั่วคราว เหมือนลูกโป่งรูปคนที่หักแขนขาไม่ได้
       
         เรากดนวดไล่ลม ทำให้ลมและพลังงานไหลเวียนออกนอกร่างกาย จึงเหมือนการปล่อยลมในลูกโป่งให้ค่อยๆแฟบลง เล็กลงมา เมื่อลูกโป่งใบเล็กลงมา ความดันของลมในลูกโป่งลดลง นิ่มลง  เราก็จะสามารถงอแขนขาลูกโป่งรูปคนได้

          เมื่อลมไหลเวียนออกนอกร่างกายได้ ลมพาพลังงานให้ไหลออกไปด้วย จึงทำให้พลังงานที่สั่งสมอยู่ตามแนวเส้น สั่งสมอยู่ที่อวัยวะ อยู่ที่ช่องท้อง กระโหลกศีรษะ มีพลังงานสั่งสมน้อยลงไปเรื่อยๆ
         แนวเส้นที่เคยบวม โป่ง พองโตขึ้นมา ก็จะยุบลง การขยับท่อนกระดูก ข้อกระดูกต่างๆ ก็จะค่อยๆคลายกลับมาใช้งานได้จนเป็นปกติ       
           
             

                       
    18 พฤศจิกายน 2561

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น