วันพุธที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2560

อาการตัวร้อน แต่ไม่มีไข้

อาการตัวร้อนแต่ไม่มีไข้

ความสมดุลของธาตุต่างๆในร่างกายเราเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เมื่อกล้ามเนื้อเราเป็นมัดๆ ( ธาตุดิน ) กล้ามเนื้อแข็งแรง เราลองนึกดูว่า เส้นเลือดที่ฝังตัวอยู่ในกล้ามเนื้อที่เป็นมัดๆ การไหลเวียนของเลือด (ธาตุน้ำ) การไหลเวียนของลมในเส้น ( ธาตุลม ) ก็จะโดนกระทบ ทำให้การไหลเวียนของเลือดและลมด้อยประสิทธิภาพลงไป
การไหลเวียนของเลือดที่จะไปที่อวัยวะ หรือเลือดที่จะไปส่วนปลายของรยางค์คือ ปลายมือ ปลายเท้า ศีรษะ ก็จะไปได้น้อยลง ทำให้อวัยวะส่วนนั้นๆได้รับอาหารและออกซิเจนไม่พอเพียง จึงเกิดการชาตามปลายมือปลายเท้า และสมองขาดเลือด
เลือดดำที่จะไหลกลับเข้ามาที่ปอด เพื่อฟอกเอาของเสียออกจากเลือด ก็ไหลเวียนกลับมาได้ไม่เต็มที่ เพราะเส้นเลือดดำที่ฝังตัวอยู่ในกล้ามเนื้อที่แข็งแรง ความยืดหยุ่นของเส้นเลือดดำและวาล์วที่อยู่ในเส้นเลือดดำก็จะเสื่อมสภาพการทำงาน จึงทำให้เกิดอาการเส้นเลือดขอด
การไหลเวียนของลมในกายก็โดนกระทบ ลมที่ไหลเวียนตามเส้น ซึ่งเส้นนั้นก็อยู่ในชั้นกล้ามเนื้อ เมื่อกล้ามเนื้อแน่น แข็งแรง จะทำให้การไหลเวียนของลมไม่ครบวงจร ลมไหลเข้ามาในร่างกายได้ แต่บริเวณที่มีอาการขัด ( จะเกิดจากการที่มีกล้ามเนื้อแข็งแรง หรือจะเกิดจากการที่กล้ามเนื้อบาดเจ็บ บาดเจ็บเรื้อรังจนมีชั้นพังผืดที่หนา ) ทำให้การไหลเวียนของลมในเส้น ไหลเวียนผ่านบริเวณนั้นไม่ได้ ลมเกิดการรวมตัวกันขึ้น ทำให้เกิดความดันของลม และความดันของลมนั้นก็จะสะสมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ไปกดทับอวัยวะต่างๆ
ไปกดทับกล้ามเนื้อต่างๆ เช่น กดทับกล้ามเนื้อหัวเข่าก็เกิดอาการปวดเข่า
ไปกดทับหมอนรองกระดูกเอว ก็จะทำให้ปวดเอว
และเมื่อกดทับที่หมอนรองกระดูกเอวมากๆก็จะทำให้หมอนรองกระดูกเคลื่อนตัวไปทับเส้นประสาทขา ทำให้มีอาการปวดร้าวลงเส้นประสาทขา
การที่ธาตุลมโดนกระทบจากกล้ามเนื้อที่แข็งแรง หรือชั้นพังผืดที่เพิ่มขึ้นมา จึงทำให้ธาตุลมในกาย ไหลเวียนไม่ดี ลมไปขัดบริเวณนั้นๆ ทำให้เกิดอาการจากลมขัดมากมายเช่น
มีอาการปวดแสบปวดร้อนใต้ผิวหนัง
มีอาการคันเหมือนมดไต่ใต้ผิวหนัง
มีอาการร้อนอยู่ใต้ผิวหนังบริเวณที่เคยบาดเจ็บ
มีอาการบวมเป่งบริเวณแนวที่เคยบาดเจ็บ
มีอาการลมออกหู
และมีอาการร้อนลุ่มอยู่ในกาย แต่ไม่มีไข้ ซึ่งคนทั่วไปจะมีอาการนี้เยอะมาก ทั้งนี้เนื่องจากธาตุลมที่ขัด ลมไหลเวียนผ่านบริเวณนั้นไม่ได้ การบาดเจ็บของกล้ามเนื้อนั้นๆ ก็จะทำให้มีการสั่งสมพลังงาน ธาตุไฟจึงกำเริบ เราจึงมีความรู้สึกว่าในกายเราร้อนลุ่มกว่าปกติ แต่เมื่อวัดอุณหภูมิในร่างกาย ก็อยู่ที่37 องศา คือไม่มีไข้
ไม่ว่าจะมีอาการอะไร ปวดแสบปวดร้อน อาการคันเหมือนมดไต่ใต้ผิวหนัง อาการบวมเป่งใต้ผิวหนัง ถ้าเราสามารถทำให้ลมไหลออกนอกกายตามรยางค์ทั้ง5 ตามทวารต่างๆ ตามข้อกระดูกต่างๆ ตามรูขุมขนทั่วร่างกายเรา อาการตัวร้อนลุ่ม แต่ไม่มีไข้ในกายเราก็หายได้ในขณะที่นวดนั้นเอง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น