วันพุธที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2560

น้ำในหูไม่เท่ากัน

น้ำในหูไม่เท่ากัน

อาการเจ็บป่วยของคนเราในแต่ละโรค แต่ละอาการ แพทย์แผนปัจจุบันก็เรียกอาการหนึ่ง รักษาไปทางหนึ่ง แพทย์ทางเลือกก็วิเคราะห์เรียกอาการหนึ่ง ก็รักษาไปอีกทางหนึ่ง แล้วแต่ภูมิความรู้ที่มีอยู่ จะเป็นการบำบัดเพื่อกดอาการต่างๆไว้เพื่อไม่ให้แสดงอาการออกมา หรือการเข้าไปบำบัดในตัวปัญหาที่เป็นเหตุให้เกิดอาการนั้นๆ
มีคนป่วยที่ผมได้ไปนวดไล่ลม อยู่แถวถนนพระราม2 ระบุมาว่ามีอาการ น้ำในหูไม่เท่ากัน โดยรวมแล้วคือมีอาการมึนงง เวียนศีรษะ คล้ายบ้านหมุน อาการที่แจ้งนี่เป็นอาการหลัก ทราบในภายหลังว่าเคยประสบอุบัติเหตุจนกะโหลกศีรษะยุบเมื่อหลายปีก่อน
แต่เมื่อได้เข้าไปพบคนป่วย และได้นวดในครั้งแรกนั้น คนป่วยมีอาการเส้นตึงเกือบทั้งตัว โดยเฉพาะขา แข็งตึง จนผิวที่หน้าแข้งมีความตึง พองขึ้นมาให้เห็น น่องตึง แผ่นหลังก็ตึงแข็ง บ่าก็แข็งกดไม่ค่อยลง
จึงเริ่มทำการนวด จากการให้นอนคว่ำเพื่อที่จะไล่ลมที่ขัดอยู่ในแนวเส้นหลังติดกระดูกสันหลัง แนวเส้นคอ ท้ายทอย และลมที่อั้นในศีรษะ คลายลมในช่องท้อง แนวน่อง โดยเริ่มต้นให้ลมไหลร้อนออกไปปลายนิ้วเท้า ยิ่งลมร้อนวิ่งออกทะลุไปปลายนิ้วเท้า ความหนาแน่นของลม( ความดันของลม)ที่อยู่แนวในขาด้านล่างลงมาจากจุดที่เรากดนวดนั้น ก็จะมีความดันของลมต่ำกว่าความดันของลมที่อยู่ด้านบนลำตัว ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นคือ ลมที่อั้นบวมอยู่ตั้งแต่ศีรษะลงมาจนถึงแนวขาเหนือจากจุดที่กดนวด ซึ่งมีความดันของลมมากกว่า ก็จะแพร่ ไหลลงมาแทนที่แนวขาด้านล่าง และแรงเฉื่อยที่ลมไหลออกไปปลายเท้า ก็จะทำให้ลมที่ไหลลงมาจากด้านบนก็จะไหลต่อเนื่องออกไปยังปลายนิ้วเท้า ออกนอกร่างกายไป
ทำให้แนวตั้งแต่ด้านบน เหนือจุดที่นวดมีความรู้สึกเบาสบายขึ้น ลำตัวแฟบลงมา รับรู้ถึงความรู้สึกว่าลมที่อยู่ในแนวเส้นหลังติดกระดูก โดนลากโดนกระชาก ลงมาแล้วไปออกที่ปลายเท้า ในช่องท้องโล่งขึ้น
หลังจากนั้น จึงนวดเส้นในแนวนอนตะแคง เพื่อบำบัดอาการที่เกิดขึ้นจากคอบ่าไหล่ ที่ส่งผลลงมาด้านล่างถึงปลายเท้า เพราะอาการคนป่วยคนนี้เกิดจากศีรษะโดนกระแทกลงมา อาการเริ่มต้นจึงสะสมอยู่บริเวณด้านบนของศีรษะ ทำให้เกิดอาการปวดเวียนศีรษะ เหมือนบ้านหมุน คอบ่าไหล่ตึง ปวดเมื่อยลงมาที่แนวหลังใต้แนวสะบัก แนวเอวตัดขวาง เอว สะโพก ปลายเท้า( แนวหมอนรองกระดูกเคลื่อนไปทับเส้นประสาทแขน-ขา
หลังจากนั้นนวดคนป่วยในแนวนั่ง นวดไล่บริเวณคอบ่าไหล่ จนคนป่วยมีอาการเบากาย เบาศีรษะขึ้นมา
กดท้องแนวรอบสะดือ เพื่อกระทุ้งลมตามเส้นของเส้นประธานสิบ
และนวดไล่เส้นที่นอนตะแคงอีก1รอบ เพื่อที่จะดึงลมที่เคลื่อนหนีจากการนวดท่านั่งซึ่งหนีไปกองอยู่ที่หลัง เอว และดึงลมที่หนีมากองอยู่ที่แนวหลังและเอว จากการที่เรากดท้องแนวรอบๆสะดือ เป็นการดึงลมให้ออกนอกกายไม่ให้ลมนั้นย้อนกลับไปขัดตามแนวเส้นอีก
หลังจากนั้นประมาณ2-3สัปดาห์ ได้ย้อนกลับไปนวดซ้ำอีก อาการเริ่มต้นของครั้งนี้คือ ยังมีอาการปวดมึนศีรษะบ้างไม่หนักเท่าเดิม แต่อาการเหมือนบ้านหมุนนั้นหายไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น