วันเสาร์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2560

กรรมบันดาล

     ใดๆในโลกนี้ ย่อมมีเหตุมีผล ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น เกิดจากผลของกรรม กรรมที่ส่งผลดี หรือกรรมที่ส่งผลไม่ดีกับเรา กรรมนั้นมีที่มาที่ไป การเจ็บป่วยของเราก็เช่นกัน   บางคนมีอาการปวดเมื่อยเส้นตั้งแต่เด็กๆ  ส่วนบางคนจนอายุ50-60 ไม่เคยเจ็บป่วยหนัก ไม่มีอาการปวดเมื่อยเส้นก็มี
      บางคนป่วยเรื้อรัง เลือดและลมไหลเวียนไม่ปกติ รักษามาตลอดในระยะเวลาหลายๆปีที่ผ่านมา จะ10ปี 20ปี 30ปี อาการต้นเหตุที่ซ่อนอยู่ก็ยังไม่ได้แก้ไขให้ลุล่วง แก้ไขได้เฉพาะอาการปลายเหตุเท่านั้น อาการต้นเหตุก็ยังเก็บฝังไว้ลึกลงไป
     จะแก้ไขได้หรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับเจ้ากรรมนายเวร เขาอโหสิกรรมให้เราหรือไม่ ทุกกรรมที่เกิดขึ้นล้วนมีวาระ มีช่วงเวลาของกรรมนั้นๆ ถ้าเกิดขึ้นในขณะที่เราอยู่ในภพภูมิที่เป็นมนุษย์ มีกล้ามเนื้อ เส้นเลือด อวัยวะต่างๆในร่างกาย ( ธาตุดิน ) การไม่ไหลเวียนของธาตุลมก็จะทำให้ ลมที่ขัดอยู่ตามแนวต่างๆ จะไปกดกล้ามเนื้อทำให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อบริเวณนั้น เช่นกล้ามเนื้อหัวเข่า  ถ้าลมไปบีบรัดอวัยวะ ก็จะทำให้อวัยวะสูญเสียสภาพการทำงานชั่วคราว
    เช่น ลมในช่องท้องมาก กระเพาะอาหารก็อยู่ในช่องท้องด้วย ลมที่แน่นอยู่ในช่องท้องจึงไปบีบรัดให้กระเพาะอาหารซึ่งก็เป็นกล้ามเนื้อชนิดหนึ่ง มีการหด และขยายตัว เพื่อให้อาหารและน้ำย่อยคลุกเคล้ากัน
  เมื่อลมในช่องท้องแน่น ลมไปบีบให้กระเพาะอาหารมีขนาดเล็ก ไม่สามารถขยายพองตัวออกมาได้ ทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อน ถ้าเราสามารถทำให้ลมที่แน่นอยู่ในช่องท้องคลายตัวออกได้ ก็จะแก้ไขอาการกรดไหลย้อนได้เอง
     ทั้งหมดที่กล่าวมา ไม่ใช่ว่าเราไม่รักษา แต่ที่เรารักษาแล้วยังไม่สามารถแก้ไปที่ลมได้ จนทำให้ร่างกายเราต้องช่วยคลายอาการ คลายความกดดันของอาการที่เก็บอยู่ด้านในลึกๆออกมา ในลักษณะชองการหาว การไอ การจาม การเรอ การผายลม การที่มีเสียงดังตามข้อกระดูกต่างๆ
      บางคนมีการเรอบ่อย เรอต่อเนื่อง ก็คือการคลายอาการด้านในกายออกมา แต่อาการต้นทางจริงๆยังไม่สามารถเข้าไปแก้ไขได้ เหมือนถังน้ำที่ใส่น้ำจนปริ่ม ใส่น้ำลงไปก็เก็บไม่ได้แล้ว มีแต่ไหลล้นออกมา
       ถ้าเรายังไม่ได้แก้ไขอาการต้นเหตุที่ลมไม่ไหลเวียน อาการเรื้อรังก็จะคงอยู่ต่อไป ทั้งนี้ก็เนื่องจากเจ้ากรรมนายเวรยังไม่อโหสิกรรมให้เรา จึงทำให้เราบำบัดอย่างไร ก็ยังแก้อาการของลมไม่ได้ ที่เคยเจอก็มีเช่น

 ดลใจให้คิดว่า กลัวนวดแล้วจะติด
ต้องไปนวดบ่อยๆ ทั้งๆที่ไม่ค่อยจะได้เจอว่า คนไม่มีเงินเหลือพอที่จะไปนวด จะดิ้นรนหาเงิน หาเพื่อที่จะไปนวด ยอมเสียเงินที่มีอย่างจำกัดเพื่อที่จะไปนวด เพราะติดการนวด ขาดการนวดไม่ได้ แต่สาเหตุที่คนที่ไปนวดจริงๆเพราะมีอาการปวดจนทนไม่ไหว จึงต้องไปนวด
     คนมีฐานะบางคนที่ไปนวดบ่อยๆ ไม่ใช่ว่าเขามีเวลาเหลือเฟือ แต่การที่ต้องไปนวด ก็เพราะปวดจนทนไม่ได้ จึงต้องไปนวด
   ดลใจให้คิดว่า คนนวดเป็นหมอนวดผู้ชาย
ไม่เคยให้ผู้ชายนวด การคิดอย่างนี้ก็เป็นการปิดกั้นไม่ให้เราได้รับการแก้ไข จะรู้หรือไม่ว่า คุณอาจจะหายได้จากการที่หมอนวดที่รักษาเป็นหมอผู้ชาย การที่เราคิดอย่างนั้น ก็เป็นการตัดโอกาสตนเองที่จะได้รับการรักษา
   ดลใจให้คิดว่า ไม่อยากนวดเพราะกลัวเจ็บ
ไม่คิดหรือว่าทุกวันนี้เจ็บอยู่แล้ว อาการที่ไม่ได้รับการแก้ไข มีแต่จะบานปลาย อาการจะเรื้อรังจนทำให้ไปกระทบการทำงานของอวัยวะอื่นๆมากขึ้น
    ดลใจให้เชื่อในการแนะนำจากแพทย์แผนปัจจุบันอย่างเดียว
ทำให้เชื่อมั่นในการรักษาที่ได้จากการรักษาทางทางแพทย์แผนปัจจุบัน เชื่อใจมั่นใจกล้ากินยาที่หมอแผนปัจจุบันจ่ายให้ ใช้ในการรักษา ไม่เคยกลัวว่ายาที่กินไปสุดท้ายจะมีผลกระทบเมื่อมีอายุมากขึ้น เกิดโรคความดัน เบาหวาน โรคไต ตามมา
     ส่วนการรักษาทางแผนไทย การนวด การใช้ยาสมุนไพร ไม่ได้รับความเชื่อมั่นในการรักษาเท่าวิธีของแผนปัจจุบัน คือทางเลือกสุดท้ายที่จะใช้ เพราะความที่ไม่เชื่อในประสิทธิภาพในการรักษา ถึงแม้จะเป็นเป็นการรักษาที่ต้นทางของอาการ

     ดังนั้น ความคิดที่ว่าไม่อยากนวดเพราะกลัวติด  ไม่อยากนวดเพราะหมอนวดเป็นผู้ชาย  ไม่อยากนวดเพราะกลัวเจ็บ  ไม่อยากนวดเพราะเชื่อในการแนะนำจากแพทย์แผนปัจจุบันอย่างเดียว จึงเป็นการดลใจของเจ้ากรรมนายเวรที่อยู่ในกายเรา เขายังไม่ยอมให้เราหายจากอาการนั้นๆ

 ถ้าเจ้ากรรมนายเวรเขายอม จะดลใจให้เรารักษา เราก็จะคิดว่า
     ถ้าเราไม่มีอาการอะไร เราก็ไม่มีความจำเป็นต้องนวด เราก็ไม่นวด ที่เรานวดก็เพื่อบำบัดรักษา
     จะเป็นหมอนวดชายหรือหญิงก็ได้ ถ้ารักษาเราหายได้ เราก็จะให้เขารักษา
     ทุกวันนี้เราเจ็บอยู่แล้ว ถ้าการนวดบำบัดครั้งนี้จะเจ็บในขณะที่นวด ก็ยินดีที่จะเจ็บ เพื่อที่อาการเรื้อรังต่างๆจะหายไป
      เราเคยได้ยินว่า กินยาคลายเส้นบ่อยๆ ต่อไปก็จะทำให้มีปัญหาต่อไต ต้องฟอกเลือด เป็นความดัน โรคหัวใจ เบาหวาน เราจะลองเลือกการรักษาทางอื่น ซึ่งอาจจะบำบัดอาการของเราก็ได้

      บางคนมีคนเขาแนะนำ และเคยได้ยินว่าที่นั่นที่นี่รักษาได้ แต่ถ้าเจ้ากรรมนายเวรไม่ยอม อย่างไรๆก็ไม่มีโอกาสที่จะได้รักษา ต่อให้ไปถึงแล้ว ก็มีเหตุให้ไม่ได้รักษา
     แต่ถ้าเจ้ากรรมนายเวรยอมอโหสิกรรมให้แล้ว ต่อให้ไม่รู้จักกัน ไม่เคยมีข้อมูล สถานการณ์จะพาไป ทำให้มีโอกาส ได้ไป ได้รู้จัก มีคนอื่นแนะนำให้รู้จัก และได้รับการบำบัดจนหายได้

                      นี่แหละกรรมบันดาล

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น