พลังงานที่มากระแทกร่างกายแล้วไปไหน ( ตอน 7.9 )
ลมออกหู
เสียงที่เราได้ยินเป็นพลังงาน เป็นพลังงานอีกประเภทหนึ่งที่กระทบเข้ามาในร่างกายเราทุกๆเสียงที่เราได้ยิน ก็คือทุกๆพลังงานที่กระทบเข้ามาในร่างกายผ่านทางหู เสียงดังน้อยพลังงานที่เข้ามากระทบร่างกายทางหูก็น้อย เสียงดังมากพลังงานที่เข้ามากระทบก็มากตามไปด้วย
ในสภาวะปกติ การได้ยินเสียงที่ดังไม่มาก เช่นการได้ยินจากการพูดคุยกันจะเป็นแค่การสั่งสมพลังงานเข้าไปในหูเรื่อยๆ จะไม่ค่อยมีผลข้างเคียงอะไร ถ้าจะมีปัญหาก็ใช้เวลานานหลายสิบปีที่จะทำให้หูอื้อ
แต่เสียงดังๆที่กระทบเข้ามาในหูเช่น การทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมที่ต้องอยู่กับเครื่องจักรที่มีเสียงดังตลอดเวลา ทำงานในสถานบันเทิงที่มีเสียงดัง กระหึ่ม ตลอดเวลาเป็นระยะเวลานานหลายๆปี การใช้อุปกรณ์หูฟังเสียบที่หู ฟังเสียงที่ดัง ต่อเนื่อง เป็นเวลายาวนาน เป็นปีๆ หรือการโดนตบบ้องหู
การที่เราอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงดังมากๆ ตลอดเวลา เป็นเวลานานหลายๆปี พลังงานที่สั่งสมเข้าไปในแต่ละวันเริ่มมากจนเต็มแน่น หูเมื่อมีพลังงานที่สั่งสมเข้ามาสูงขึ้น เลือดลมบริเวณหูไหลเวียนไม่ดี ลมที่ไหลเวียนออกนอกกายไม่ได้ ความดันลมหรือพลังงานภายในที่สั่งสมขึ้นมาตามลำดับก็จะมีแรงไปกดทับอวัยวะส่วนต่างๆในหู ทำให้เรามีอาการปวดในหู มีอาการหูอื้อ หูตึง ลมออกหู อาการน้ำในหูไม่เท่ากัน
และความดันที่เกิดขึ้นนี้ก็ยังส่งผลทำให้อวัยวะใกล้เคียงในศีรษะมีอาการข้างเคียงไปด้วย ตาก็จะพร่ามัว จมูกก็หายใจแห้งๆขัดๆ เป็นอาการภูมิแพ้ เมื่อยขบกรามในช่องปาก มึนศีรษะ รวมทั้งมีอาการตัวร้อนแต่ไม่มีไข้ ทั้งนี้เนื่องจากพลังงานที่เข้ามาแล้วออกไม่ได้
การที่ธาตุลมขัด ทำให้พลังงานที่สั่งสมในกายเราแล้วออกไม่ได้ ธาตุไฟจึงกำเริบ จึงมีอาการร้อนอยู่ภายในกายโดยที่ไม่มีไข้ บริเวณที่ลมขัดอยู่ค่อยๆแผ่ขยายวงกว้างออกไปยังพื้นที่ใกล้เคียง พลังงานที่สั่งสมจึงไปกดดันกล้ามเนื้อ อวัยวะบริเวณหูและบริเวณอวัยวะใกล้เคียง ทำให้อวัยวะทำงานผิดเพี้ยนไป
การนวดปรับสมดุลธาตุทั้งสี่ นวดทำให้ลมในกายบริเวณหู ให้ลมไหลเวียนออกนอกกายได้จึงเป็นการแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ เมื่อพลังงานที่สั่งสมน้อยลง อาการต่างๆที่กล่าวมาก็จะคลายตัว และหายไปในที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น