วันจันทร์ที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

นวดไล่ลม นวดคลายพลังงาน ( 2/2 )

นวดไล่ลม นวดคลายพลังงาน ( 2/2 )

        เรื่องพลังงานที่ซึมซับและสั่งสมอยู่ภายในร่างกายเรา ถ้าเป็นวิชาคณิตศาสตร์ ก็เป็นสมการที่ซ้อนสมการอีกทีหนึ่ง เพราะถ้าเราไม่สามารถทำให้ลมไหลเคลื่อนออกนอกร่างกายได้ เราก็ไม่สามารถนำพลังงานที่สั่งสมภายในให้เคลื่อนไหลออกนอกร่างกายได้
       ทั้งลมและพลังงาน ในร่างกายเรามองไม่เห็น แต่ผู้ป่วยที่มีอาการจะสัมผัสรู้ถึงความไม่ปกติของอาการป่วย บอกกล่าวอาการที่เป็นออกมา บางครั้งผู้ที่จะบำบัดไม่เข้าใจ สัมผัสถึงอาการไม่ได้ จึงไม่สามารถบำบัดอาการให้ลุล่วงไป

          มีกรณีตัวอย่าง เป็นผู้ป่วยเก่าที่เคยนวดบำบัดมาหลายปีแล้ว ไม่น่าจะต่ำกว่า 6 ปี ผู้ป่วยเป็นหญิงวัยกลางคน อยู่แถวพุทธมณฑล สาย3 มีอาการป่วยเรื้อรัง เนื่องจากอุบัติเหตุ รถชนกัน จนตัวผู้ป่วยศรีษะไปกระแทกกระจกหน้ารถ หลังจากที่รักษาอาการบาดเจ็บกล้ามเนื้อ และอาการฟกช้ำจนหายไป จะมีอาการตึงรั้งไปทั้งซีกของร่างกายซีกขวามือ มีอาการตึงรั้งภายในแนวเส้นตั้งแต่ศรีษะจนถึงปลายเท้าตลอดซีกขวามือ
          แต่ร่างกายซีกซ้ายมือ อาการตึงรั้งทั้งซีกไม่มี 
    หลังจากที่ได้บำบัด นวดไล่ลม ทำให้ลมเคลื่อนไหลออกนอกร่างกาย อาการตึงรั้งด้านขวา ค่อยๆลดลง จนหายไปในที่สุด ร่างกายซีกซ้ายและซีกขวาเบาเท่ากัน

      สำหรับผู้ป่วยรายนี้ เป็นกรณีศึกษา และเป็นกรณีที่แสดงให้เห็นว่า พลังงานที่เข้าไปในร่างกาย เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราเจ็บไข้ได้ป่วย
      เริ่มแรกผู้ป่วย นวดสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เป็นเวลาเกือบปี จนอาการค่อยๆทุเลาลง  ค่อยๆห่างออกเป็น 1เดือนนวด1ครั้ง จนในปัจจุบัน ผู้ป่วยทิ้งช่วงการนวดได้ประมาณ 1 ปี ต่อ1 ครั้ง
       เป็นกรณีศึกษา ให้เห็นที่มาและที่ไปของอาการผู้ป่วยรายนี้  อาการเริ่มต้นที่เป็นสาเหตุให้ไปนวดก็คือการถูกกระแทกที่ศรีษะ มีอาการตึงรั้งไปทั้งซีกของร่างกายซีกขวามือ มีอาการตึงรั้งภายในแนวเส้นตั้งแต่ศรีษะจนถึงปลายเท้าตลอดซีกขวามือ
       บำบัดได้จนหายเป็นปกติ อาการตึงรั้งทั้งซีกขวาหายไป จนร่างกายซีกขวาและซ้ายมีความตึง รั้งเท่ากัน การนวดก็ทิ้งช่วงห่างออกมาเป็นหลายเดือนต่อการนวด1ครั้ง

        เช้าวันหนึ่ง ผู้ป่วยได้โทรมาปรึกษาว่า ก่อนหน้านี้จนถึง 2-3 วันที่ผ่านมา ร่างกายยังมีสภาวะปกติ ไม่มีอาการปวด อาการเดิมๆที่เคยตึงตลอดซีกขวาก็ไม่มี ปรากฎว่าตื่นนอนเช้าวันนี้มีอาการปวดระบม บริเวณหน้าผากด้านซ้ายมือ ปวดเหมือนจะระเบิด แต่บริเวณที่ปวดนี้ไม่มีอาการบวมออกมา จึงปรึกษาว่าจะต้องนวดครั้งต่อไปแล้วหรือ อาการนี้เป็นเพราะอะไร ผู้ป่วยได้แจ้งข้อมูลให้ทราบเบื้องต้นเพื่อวิเคราะห์อาการดังนี้

- เมื่อ 3 ปีก่อนเคยได้รับอุบัติเหตุ เอื้อมมือไปหยิบของบนหลังตู้ พระที่หล่อด้วยเลซิ่น หล่นใส่ที่กลางหน้าผากซ้าย ( คือบริเวณที่ปวดในขณะนี้ )
- ได้รับการรักษาโดยแพทย์ อาการบวม ปวดจากการโดนพระเลซิ่นหล่นใส่ รักษาไปประมาณ 1เดือน อาการปวดบวม นั้นก็หายไป แต่มีอาการคันอยู่บริเวณที่โดนเจาะ อาการคันนั้นเหมือนมีมดเดินอยู่ใต้ผิวหนัง กินยา ทายาอะไรก็ไม่หาย
- ไม่มีอาการปวด แต่มีอาการคันใต้ผิวที่โดนเจาะตลอดทั้ง 3 ปี มีอาการทุกวัน จนถึงวันนี้ที่กลับมามีอาการปวดที่หน้าผากซ้าย   
     ซึ่งผมได้แจ้งว่า ให้รอดูอาการ 1 วัน ถ้าหากวันรุ่งขึ้นยังมีอาการอยู่ ก็คงต้องนวดแล้ว อาจจะถึงเวลาที่จะต้องนวด แต่ถ้าพรุ่งนี้ไม่มีอาการ ก็ไม่ต้องนวด
     
       ปรากฎว่าในวันรุ่งขึ้น
- อาการปวดหายไป ทั้งๆที่เมื่อวานปวดมากๆ
- อาการคันที่อยู่ใต้ผิว บริเวณที่โดนพระเลซิ่นหล่นใส่ ที่คันต่อเนื่องมา3ปี ก็หายไปด้วยในเช้าวันนี้     

 จึงเป็นที่มาของการอธิบาย การที่เรานวดทำให้ลมเคลื่อนไหลออกนอกกาย ลมจะพาพลังงานที่เคยกระแทกเข้ามาให้ออกไป พร้อมกับลมที่ไหลออก
- ทุกครั้งที่ได้ไปนวดบำบัด จะมีการนวดไล่ลม ที่แนวขาทุกครั้ง
- วันที่พระเลซิ่นหล่นใส่กลางหน้าผากซ้าย เมื่อ3ปีก่อน เป็นวันที่พลังงานเคลื่อนเข้ามาจากการกระแทก เมื่อรักษาอาการปวดบวมจนหายแล้ว ยังมีอาการคันใต้ผิวตลอด3ปีต่อมา จึงเป็นร่องรอยให้เห็นถึงพลังงานที่เข้าไปแล้วยังคงอยู่ภายใน 
- วันที่อาการปวดกลับมา แต่ไม่มีอาการบวม เป็นวันที่พลังงานที่สั่งสมอยู่ได้คลายออกมาใต้ผิวหนัง บริเวณหน้าผากซ้าย เพื่อที่จะไหลออกนอกกายพร้อมลมที่จะเคลื่อนออก
- วันรุ่งขึ้นไม่มีอาการปวดที่หน้าผากซ้ายแล้ว ทั้งๆที่เมื่อวานไม่ได้มีการนวดบำบัดเลย และที่สำคัญอาการคันใต้ผิว ที่เคยเป็นมาตลอด 3ปี ก็หายไปด้วย หายไปตั้งแต่วันนั้นจนถึงปัจจุบันนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น