วันอังคารที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2561

ลมกับพลังงาน ( ตอน 7 )

ลมกับพลังงาน ( ตอน 7 )
การบำบัดอาการหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทขา

         ในขณะที่เรากดนวดตามแนวเส้น อย่าง เนิบๆ ช้าๆ การกดนวดนั้นจะสามารถทำให้ลมในแนวเส้น เคลื่อนไหลออกนอกร่างกายได้ ออกตามข้อกระดูก ออกตามทวาร ออกตามรูขุมขนต่างๆที่แนวเส้นนั้นลากผ่าน
         เมื่อภายในร่างกายลมไหลเวียนดี ลมก็จะนำพาพลังงานที่เคยซึมซับเข้ามาในร่างกาย ให้เคลื่อนไหลออกไปกับลมที่ไหลออกนอกกายได้
          เคยสังเกตุไหมว่า เวลาที่เราปวดศรีษะ ไมเกรน เส้นคอข้างที่มีอาการไมเกรนจะบวมขึ้นมา แต่อีกข้างที่ไม่ปวดเส้นคอจะปกติ การที่เส้นคอเราบวมขึ้นมา ก็เนื่องจากการที่แนวเส้นคอ มีปัญหา ลมในแนวเส้นไม่สามารถลากพลังงานที่สั่งสมเข้ามาให้ไหลออกนอกร่างกายไปได้ จึงทำให้แนวเส้นคอนั้นมีพลังงานที่สั่งสมอยู่มาก จึงบวมพองขึ้นมา    ( เหมือนสายดับเพลิงที่เปิดน้ำ ให้ไหลเข้ามาในสาย สายดับเพลิงก็จะตึง แข็ง หนักขึ้นมาทันที ) พลังงานที่อยู่ในแนวเส้นนี้ก็เช่นเดียวกัน

            อาการหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทขา เป็นอาการของลมทีขัดในแนวเส้น เริ่มมาจากส่วนบนของร่างกาย พลังงานเข้ามาจากส่วนบนของร่างกาย จากท่อนบนลงมาท่อนล่าง มาจากอาการคอบ่าไหล่ ความเครียด นอนไม่พอ อุบัติเหตุที่กระแทกเข้ามาที่ศรีษะ ไหล่ แขน มือ เช่นการทำอาหาร ทำงานบ้าน เล่นกีฬา การวิ่ง การเต้น ยกของหนัก การขับรถ ทำงานหน้าเครื่องคอมพิวเตอร์ การพูดโทรศัพท์นานๆต่อเนื่องกัน ฯลฯ   
           ทุกๆอิริยาบทของการใช้ชีวิตประจำวัน ทุกๆการกระทำของเรามีพลังงานสะเทือนเข้ามาในกายเรา เพียงแต่ว่าพลังงานนี้เมื่อเข้ามาแล้วเคลื่อนออกไปไม่ได้ สั่งสมต่อเนื่อง จากวันเป็นเดือน จากเดือนเป็นปี เป็นหลายๆปี พลังงานที่เข้ามาจากด้านบนร่างกายนี้ จะค่อยๆเคลื่อนไหลมารวมกันที่แนวสะบัก เคลื่อนลงมาตามแนวหลังใต้แนวสะบัก ตัดขวางเข้าเอว ไปที่แนวกระดูกสันหลังเอว พลังงานเคลื่อนผ่านแนวกระเบนเหน็บ ขาหนีบ แนวเส้นข้างขาด้านใน แนวหน้าแข้งด้านใน ฝ่าเท้าแนวร่องระหว่างนิ้วโป้งและนิ้วชี้ นี่คือ 1รอบ ที่พลังงานเคลื่อนไหลลงมาด้านล่าง
         เมื่อพลังงานเคลื่อนลงมาถึงกระดูกสันหลังเอว พลังงานที่อยู่ในแนวเส้น ก็จะทำให้เส้นเลือดนั้นบวม พอง ใหญ่ขึ้นมา ( เหมือนกับเส้นคอ เมื่อเกิดอาการไมเกรน เส้นคอก็จะบวม พอง ใหญ่ขึ้น ) แนวเส้นที่บวมใหญ่ขึ้นมาก็จะไปดันหมอนรองกระดูกเอว ( เป็นเนื้อเยื่อนิ่มๆ) ให้เคลื่อนออกจากแนวกระดูกสันหลังเอว แล้วหมอนรองกระดูกนี้ก็จะไปกดทับเส้นประสาทไขสันหลังที่ไปที่ขา จึงทำให้มีอาการหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทขา ลักษณะอาการแบ่งเป็น 2ส่วนคือ
   1. อาการที่พลังงานคั่งค้างอยู่ตามแนวเส้น ก็จะเริ่มจากแนวกระดูกสันหลังเอว ผ่านไปกระเบนเหน็บ เส้นข้างขาด้านใน แนวเส้นหน้าแข้งด้านใน แนวเส้นฝ่าเท้าแนวร่องระหว่างนิ้วโป้งและนิ้วชี้ เรากดนวดที่แนวเส้นนี้ เป็นการกดนวดเพื่อให้ลมและพลังงานคลายออกนอกร่างกาย
    2. อาการที่เกิดจากแนวกระดูกสันหลังเอว เส้นประสาทไขสันหลังที่ลากลงไปที่ขา โดนกดทับ ทำให้มีอาการหมอนรองกระดูกเคลื่อนทับเส้นประสาทขา จะมีอาการขัด อาการปวดร้าว หรืออาจมีอาการไฟช็อตลงมาที่สะโพก สลักเพชร ข้อพับเข่าด้านนอก แนวตาตุ่มด้านนอก แนวหลังเท้าบริเวณร่องนิ้วนางกับนิ้วก้อย
      อาการนี้เป็นอาการที่เส้นประสาทขาถูกกดทับ เราจะไม่กดนวดบริเวณที่มีอาการนี้ เพราะถ้าเรากดนวดแนวบริเวณนี้ จะทำให้เส้นประสาทขาช้ำและบาดเจ็บได้ เมื่อเรากดนวดที่แนวเส้นข้างขาด้านใน ( ท่านอนตะแคง ) ลมและพลังงานจะเคลื่อนไหลลงไปออกที่ข้อหัวเข่า ข้อตาตุ่ม ข้อนิ้วเท้า และตามรูขุมขนแนวขาที่กระทุ้งจนเปิดแล้ว พลังงานที่ทำให้แนวเส้นที่กระดูกสันหลังเอวบวมโต ก็จะคลายออก แนวเส้นยุบตัวลง แรงดันที่ไปดันหมอนรองกระดูกให้เคลื่อนไปกดทับเส้นประสาทขาก็น้อยลงไปเรื่อยๆ อาการกดทับที่ไปปรากฎที่แนวเส้นประสาทขาก็จะค่อยๆทุเลาลงไป จนหายเป็นปกติ

จึงเป็นที่มาของการบำบัดอาการด้วยท่านอนตะแคง นวดแนวเส้นข้างขาด้านใน อาการขัดของสะโพก สลักเพชร หายได้โดยไม่ต้องกดนวดที่สะโพกสลักเพชร

                                                                                                           19 กันยายน 2561

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น