วันจันทร์ที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2561

ลมกับพลังงาน(ตอน3)

ลมกับพลังงาน ( ตอน3 )

           ” นวดไล่ลม “   เป็นส่วนหนึ่งของการนวดแผนไทย เป็นการนวดเพื่อปรับสมดุลของธาตุทั้งสี่ในร่างกายเรา โดยมุ่งหวังผล ปรับสมดุลที่ธาตุลมในร่างกายโดยตรง ทั้งนี้เพราะอาการเจ็บป่วยที่เรื้อรังต่างๆ เป็นเพราะเรายังไม่สามารถปรับการไหลเวียนของธาตุลมในร่างกายให้เป็นปกติ

        ความเข้าใจในปัจจุบัน คำว่าการไหลเวียนของเลือดลม เป็นการเข้าใจว่า การกดนวด การบำบัดต่างๆเป็นการทำให้เลือดลม ไหลเวียนดีขึ้น
        การกดนวดช่วยทำให้กล้ามเนื้อที่แข็งตึง ให้นิ่ม ให้คลายความตึงลง
        การคลึงช่วยคลาย ช่วยสลายพังผืดที่เกาะอยู่ที่กล้ามเนื้อ  ทำให้เลือดไหลเวียนไปเลี้ยงกล้ามเนื้อ อวัยวะต่างๆได้ดีขึ้น
         แต่การนวดบำบัดทั่วไป สำหรับธาตุลม เพียงแค่ทำให้ลมในร่างกาย ในแนวเส้น เคลื่อนหนีจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง ลมในร่างกายยังคงคั่งค้างอยู่ภายใน ไม่เคลื่อนไหลออกนอกร่างกาย ลมจึงไม่สามารถนำพาพลังงานที่เคยกระทบเข้ามาในร่างกาย ให้เคลื่อนไหลออกนอกร่างกายเราไปได้ จึงเกิดการสั่งสมพลังงานนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
         เราทานอาหาร เราก็ต้องขับถ่ายอุจจาระออกมา
         เราทานน้ำ เราก็ต้องขับถ่ายปัสสาวะออกมา
         เราหายใจเข้าเอาก๊าซออกซิเจนเข้า เราก็ต้องหายใจออกเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา

         ดังนั้นการที่เราเคยซึมซับพลังงานจากภายนอกเข้ามา เราจำเป็นต้องคลายพลังงานเหล่านั้นออกมาด้วย

     การนวดไล่ลม เพียงแค่การกดนวดจะทำให้ลมไหลเวียนออกนอกร่างกาย ตามข้อกระดูกต่างๆ ตามรูขุมขนทั่วร่างกาย ทำให้พลังงานที่เคยสะเทือนเข้ามาในร่างกาย จะเคลื่อนไหลตามลมออกไปด้วย

            ถ้าพลังงานไม่เคลื่อนไหลออกนอกร่างกาย ก็จะเหมือนลูกโป่งที่เป่าจนมีขนาดโตขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งโตมากก็ยิ่งแข็ง ความดันของลมในลูกโป่งก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ มากจนผิวลูกโป่งรับไม่ไหว ลูกโป่งก็จะแตก
            ถ้าเราค่อยๆ ปล่อยลมในลูกโป่งให้ไหลออกทีละนิด จนขนาดลูกโป่งลดลงมาเหลือขนาดแค่ครึ่งใบ ความดันของลมภายในลูกโป่งจะลดลง ลูกโป่งก็จะนิ่มลงไม่ตึงแข็งเหมือนตอนแรก
           
การนวดเส้น คือการนวดเส้นที่มีเลือดและลมแล่นอยู่

      ดังนั้นการที่เรากดนวดแล้ว ลมไม่สามารถเคลื่อนไหลออกนอกร่างกาย พลังงานที่เคยซึมซับเข้ามา แล้วสั่งสมอยู่ภายใน พลังงานนั้นจะเคลื่อนไหลออกนอกร่างกายเราไม่ได้เช่นกัน พลังงานก็ยังคงสั่งสมต่อไป
      เคยสังเกตุไหมว่า เวลาที่เรามีอาการปวดศรีษะ ไมเกรน อาการคอตกหมอน เส้นคอเราจะบวม พองโตขึ้น เพราะลมและพลังงานที่อยู่ในแนวเส้นคอนี้ ไหลเวียนออกนอกร่างกายไม่ได้ ทำให้แนวเส้นนั้นโป่งพอง สภาพเหมือนลูกโป่งที่เป่าให้ขนาดโตขึ้น
       แต่อีกข้างที่ไม่มีอาการไมเกรน การไหลเวียนของลมและพลังงานที่แนวเส้นคอ ลมและพลังงานยังสามารถไหลเวียนออกนอกร่างกายได้ แนวเส้นก็จะปกติ ไม่บวมขึ้นมา
       ในแนวทางการนวดไล่ลมนั้น การกดนวดขาข้างใดข้างหนึ่ง เราสามารถเปิดทาง ทำให้ลมไหลเวียนออกนอกร่างกายตามรูขุมขนตลอดแนวเส้น ออกที่ปลายเท้า ปลายมือ และศรีษะได้ เพียงแค่อาศัยการแพร่ของพลังงาน หรือการแพร่ของลมในแนวเส้น ก้จะทำให้พลังงานที่สั่งสมอยู่ภายในร่างกายเรา เคลื่อนไหลออกนอกร่างกายเราได้

         แล้วเราจะทำอย่างไร ที่จะทำให้ลมเคลื่อนไหลออกจากกาย

                                                  03 กันยายน 2561

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น