วันอังคารที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2561

ลมกับพลังงาน ( ตอน1)

ลมกับพลังงาน ( ตอน1 )

           ” นวดไล่ลม “   ผมเริ่มใช้คำว่านวดไล่ลม เมื่อ12ปีที่แล้ว คำนิยามของคำว่า “ นวดไล่ลม “ ของผมในเวลานั้น หมายถึงการกดนวดที่ทำให้ลมไหลร้อน วิ่งออกจากร่างกายเราไปได้ ก็จะทำให้ร่างกายเราเบาสบาย
          ตลอดเวลา 13ปี ที่ใช้การกด นวดไล่ลม บำบัดให้ผู้ป่วย ในอาการต่างๆ จนมีความเข้าใจในความหมายของคำว่า “นวดไล่ลม” มากขึ้น และมีความเข้าใจที่ลึกซึ้งมากขึ้นกว่าเดิมว่า เป็นการกดนวดเพื่อปรับสมดุลของธาตุทั้งสี่ โดยเน้นที่ธาตุลม ทำให้ธาตุลมในร่างกายไหลเวียนเป็นปกติ คือทำให้ลมไหลเวียนเข้าและออกนอกร่างกายเราได้เป็นปกติ  เมื่อลมไหลเวียนออกนอกร่างกายได้ดีขึ้น พลังงานที่เคยซึมซับเข้ามา และได้สั่งสมอยู่ภายในร่างกายเรา ก็จะไหลตามลม ออกนอกร่างกายไปด้วยกัน 

       เวลาที่เรามีอาการเจ็บป่วย เราชอบพูดคำว่าลมเยอะ ลมแน่นท้อง ฯลฯ  ลองมาคิดดู ว่าร่างกายของเราลมเยอะแค่ไหน
        ถ้าเปรียบร่างกายเราคือลูกโปร่ง ถ้าเราเป่าลูกโปร่งให้ใหญ่เต็มใบ ลูกโปร่งจะแข็ง ต้านมือ บีบไม่ลง เป่าลมเข้าไปอีกหน่อยลูกโปร่งก็แตก นั่นแสดงว่าผิวลูกโปร่งรองรับลมภายในได้แค่ขนาดลูกโปร่งโตเต็มใบเท่านั้น ถ้าเพิ่มลมเข้าไป ผิวลูกโปร่งยืดหยุ่นไม่ได้แล้ว ลูกโปร่งจึงแตก
       สำหรับร่างกายคน ลมในร่างกายเรามีไม่มากไปกว่ารูปร่าง ขนาดร่างกายเรา  ผิวกายเรามีความยืดหยุ่นมากกว่าผิวลูกโปร่ง ผิวกายเราก็จะไม่ระเบิด ฉีกขาดเหมือนผิวลูกโปร่ง  ถ้าลมในร่างกายมีมากเกินปกติ ผิวหนังที่ยืดหยุ่นได้ ก็จะขยายตัวออก เราจึงมีความรู้สึกว่าตัวบวมขึ้น หน้าท้องโตขึ้น มีความอึดอัดมากกว่าเมื่อก่อน แต่ลมก็มีขนาดไม่โตเกินกว่าขนาดร่างกายเรา
       ยิ่งลมไหลเวียนออกนอกร่างกายไม่ได้นานเท่าใด ความดันลมและพลังงานที่ขัดอยู่ตามแนวเส้น ในช่องท้อง ในกระโหลกศรีษะ หรือทุกๆอณูของร่างกายที่ธาตุลมขัดอยู่ ก็จะยิ่งมีมากขึ้นเป็นเงาตามตัว ยิ่งนานวันอวัยวะที่โดนลมและพลังงานกดทับก็จะเสียสภาพการทำงาน
        และถ้าเราคลายลมและพลังงานเหล่านี้ให้ออกไปได้ การทำงานของกล้ามเนื้อ และกล้ามเนื้ออวัยวะต่างๆก็จะฟื้นคืนสภาพ กลับมาทำงานได้เหมือนปกติ

                                                 
28 สิงหาคม 2561

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น