พลังงานที่มากระแทกร่างกายแล้วไปไหน
( ตอน 3 )
ที่ได้กล่าวไว้ว่า เมื่อร่างกายเรา
หรืออวัยวะในร่างกายเราโดนชนหรือโดนกระแทกจากวัตถุ พลังงานที่กระแทกเข้ามา
ก็จะซึมซับเข้ามาตรงบริเวณจุดที่ปะทะ อาการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ หรือการอักเสบต่างๆเราสามารถรักษาให้หายได้จากการรักษาด้วยยา
และการหยุดการใช้งานชั่วคราวของกล้ามเนื้ออวัยวะนั้นๆ แต่พลังงานหรือแรงที่ปะทะเข้ามาในกายเราไม่สามารถที่จะขับให้ออกมาได้
จนกว่าเราจะสามารถบำบัดจนทำให้ลม สามารถไหลออกได้บริเวณรูขุมขนของกล้ามเนื้อของอวัยวะนั้นๆที่เคยโดนกระแทก
เป็นการปลดปล่อยพลังงานนี้ออกมา
มีกรณีตัวอย่าง
ที่เป็นเหมือนหลักฐานเกี่ยวกับการรักษาอาการบาดเจ็บจากการประสบอุบัติเหตุ
หลายกรรมหลายวาระ แต่ละครั้งของอุบัติเหตุก็เก็บพลังงานที่กระแทกเข้ามา
เมื่อไรที่เราทำให้ลมไหลออกนอกร่างกายได้ ลมก็จะลาก พาพลังงาน (
เจ้ากรรมนายเวรนั้นๆ ) ออกไปตามรูขุมขน ออกไปตามข้อต่างๆ ออกไปตามทวารต่างๆ
คุณชล อยู่พุทธมณฑล สาย3 เป็นผู้ป่วยที่มีอาการป่วยเกี่ยวกับเส้น
เกี่ยวกับเลือดลม มาจากการเกิดอุบัติเหตุ ซ้ำซ้อน หลายกรรมหลายวาระ
ได้นวดบำบัดอาการที่เกิดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อ10กว่าปีที่แล้ว
โดยศีรษะกระแทกกระจกหน้ารถอย่างแรง
การบาดเจ็บครั้งนั้นทำให้มีอาการปวดตึงตามแนวเส้นตลอดแนวซีกขวาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า
สำหรับกรณีนี้ได้มีการบำบัดมาต่อเนื่องประมาณ2-3ปี จนในปัจจุบันนี้อาการปวดตึงตามแนวเส้นตลอดซีกขวาก็ได้หายไป
ที่จะนำมากล่าวในตอนนี้
เป็นกรณีอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับคุณชล เมื่อประมาณ5-6ปีที่แล้ว เป็นกรณีที่ทำให้เห็นที่มาที่ไปของพลังงานที่กระแทก
และการคลายตัวออกมาของพลังงานนั้น
ประมาณปี 2558 หลังจากที่นวดบำบัดคุณชลได้ประมาณ3ปี
จากอุบัติเหตุศีรษะกระแทกกระจก จนอาการของซีกขวาทุเลาลงเรื่อยๆ
จนในเช้าวันหนึ่งคุณชลแจ้งว่า มีอาการปวดตุ๊บๆ บริเวณหน้าผากด้านซ้าย
ทั้งๆที่เมื่อวานยังปกติ ไม่มีอาการปวดตึงอะไร
จึงบอกให้รอดูหนึ่งวัน อาจจะถึงเวลาที่จะต้องนวดซ้ำ
เนื่องจากอาการบาดเจ็บต่างๆที่เก็บอยู่ด้านล่างผิวอาจจะคลายตัวขึ้นมาเต็มใต้ผิวกายแล้ว
คุณชลก็รอดูอาการจนถึงวันรุ่งขึ้นปรากฏว่า หลังจากหลับไปหนึ่งคืนอาการปวดตุ๊บๆนั้นหายไป
คุณชลได้บอกว่า เมื่อ3ปีก่อน
ได้เกิดอุบัติเหตุบริเวณหน้าผากด้านซ้ายตรงที่มีอาการปวดนี้ วันนั้นได้เอื้อมมือไปหยิบของบนหลังตู้
แล้วไปคว้าโดนพระเรซิ่น ทำหล่นใส่กลางหน้าผากข้างซ้ายนี้ (
บริเวณเดียวกันกับที่ปวดเมื่อวาน ) เลือดกระฉูด หน้าผากโนขึ้น รักษาอาการบาดเจ็บกับโรงพยาบาลประมาณ1เดือน
บาดแผลก็หายเป็นปกติ แต่อุบัติเหตุครั้งนี้มีอาการคันใต้ผิวหนังบริเวณรอยที่โดนกระแทก
เป็นอาการคันยิบยับ เหมือนมดไต่ มีอาการคันมาตลอดหลังจากที่แผลหาย ประมาณ3ปี จะทำอย่างไร
ทายาอะไรอาการคันก็ไม่หาย
แต่ในเช้าวันนั้น ตื่นมาอาการปวดตุ๊บๆหายไป
และอาการคันเหมือนมดไต่ใต้ผิวหนังก็หายไปด้วย จนถึงปัจจุบันนี้อาการคันใต้ผิวบริเวณที่โดนกระแทกก็ไม่มีอีกเลย
กรณีนี้จึงเป็นภาพเหตุการณ์ที่บอกให้รู้
ที่มาที่ไปของอาการ และที่มาที่ไปของแรงที่กระแทกเข้าร่างกายอย่างชัดเจน
อาการคันเหมือนมดไต่ใต้ผิวหนังเกิดขึ้นตลอด3ปีหลังจากบาดแผลได้รับการรักษาด้วยยา จนเห็นว่าหายเป็นปกติ
อาการคันนี้เป็นหลักฐาน เป็นร่องรอยที่หลงเหลือหลังจากการที่เรารักษาอาการบาดเจ็บแล้วเราไม่ได้คลายพลังงานนั้นออกมา
การนวดไล่ลมที่เปิดรูขุมขนบริเวณนั้นได้ เป็นคำตอบ
อาการที่ปวดขึ้นมาภายใน1วัน
ในบริเวณเดียวกันนี้ ก็คือการคลายพลังงานที่กระแทกเข้าไปเมื่อ3ปีที่แล้วออกมา
ในวันรุ่งขึ้น
การตื่นขึ้นมา พร้อมกับอาการปวดตุ๊บๆหายไป
พร้อมกับอาการคันเหมือนมดไต่ใต้ผิวหนังบริเวณที่โดนกระแทก ที่เป็นมาตลอด3ปี
ก็หายไปด้วยกัน ทั้งหมดนี้จึงเป็นเรื่องเดียวกัน เป็นกรรมเดียวกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น